กรุงเทพฯ 24 ต.ค. – ก.เกษตรเตรียมประสานผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตภัยพิบัติโรคพืช หลังโรคด่างมันสำปะหลังระบาดเข้าไทย รวมทั้งให้ทางจังหวัดเสนองบประมาณชดเชยเกษตรกรกรณีต้องทำลายมันสำปะหลังทิ้งทั้งแปลง
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการด่วนที่สุดไปยังปลัดกระทรวงเกษตรฯ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งตรวจสอบปัญหาการระบาดของโรคด่างมันสำปะหลัง ซึ่งเริ่มเข้ามาไทย โดยที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตรกำหนดแนวทางเฝ้าระวังและป้องกันโรคด่างของมันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย อีกทั้งใช้มาตรการฉุกเฉินเมื่อสำรวจพบต้นมันสำปะหลังต้องสงสัยแสดงอาการของโรคด่างในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษและสุรินทร์ 68 ไร่ จึงสั่งทำลายด้วยวิธีการฝังกลบทั้งแปลง เนื่องจากโรคใบด่างมันสำปะหลังเป็นโรคที่รุนแรง ทำให้ผลผลิตเสียหายร้อยละ 80 – 100
ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรรายงานว่าโรคด่างของมันสำปะหลังเกิดจากเชื้อไวรัสมีแมลงหวี่ขาวเป็นพาหะ เมื่อต้นมันสำปะหลังติดเชื้อจะแสดงอาการใบด่างเหลือง ใบเสียรูปทรง ยอดที่แตกใหม่จะด่างเหลือง และลำต้นแคระแกร็น หากควบคุมการระบาดไม่ได้จะทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ก่อนหน้านี้ได้ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนติดตาม สำรวจ และเฝ้าระวังในเขตพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง 51 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้กับชายแดนไทย-กัมพูชาที่เสี่ยงต่อการระบาดของโรคใบด่าง รวมทั้งมีมาตรการดำเนินการร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อไม่ให้กระทบเกิดความเสียหายกับพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ
นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้กำชับให้กรมวิชาการเกษตรเเละกรมส่งเสริมการเกษตรเร่งส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ โดยขอให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัดในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการพัฒนาเกษตรและสหกรณ์จังหวัด (อ.ก.พ.) ประสานกับผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัดตั้งเป็นชุดปฏิบัติการแก้ไขปัญหาโรคใบด่างให้ครอบคลุมพื้นที่แพร่ระบาดและพื้นที่เขตป้องกันการแพร่ระบาด รวมทั้งประสานผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอประกาศพื้นที่ระบาดพืช ซึ่งต้องมีการทำลายมันสำปะหลังที่ติดโรคยกแปลงเป็นเขตภัยพิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2556 ด้วย เพื่อจะได้สนับสนุนเงินชดเชยให้แก่เกษตรกร นอกจากนี้ ยังให้เร่งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือเกษตรกรเข้าใจถึงวิธีการแก้ไขปัญหา รวมทั้งรายงานหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ทุกหน่วยงานในพื้นที่ทันทีที่พบความผิดปกติของต้นมันสำปะหลัง เพื่อให้การควบคุมการระบาดของโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด.-สำนักข่าวไทย