กทม. 21 ต.ค. – ตำรวจ สน.เพชรเกษม ยังไม่แจ้งข้อหาดีเจสาวต้องสงสัยคดีทารุณกรรมแมว ต้องรอผลชันสูตรจากนิติเวชว่า ตายผิดธรรมชาติหรือไม่
ความคืบหน้ากรณีมีผู้เสียหายร้องเรียนว่า ดีเจสาวรับแมวไปเลี้ยงและพบซากแมวตายปริศนา ลักษณะคล้ายถูกทารุณกรรม ก่อนเข้าแจ้งความที่ สน.เพชรเกษม ซึ่งตำรวจและเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ได้ขอความร่วมมือเข้าตรวจสอบที่บ้านพ่อแม่และห้องพักของดีเจสาวรายนี้
ล่าสุด พันตำรวจโทศุภชัย อ่วมประเสริฐ รองผู้กำกับการสอบสวน สน.เพชรเกษม เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาหรือออกหมายจับได้ เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานรอบห้องพักและบ้านของดีเจสาว รวมถึงสอบปากคำพยานในบริเวณที่พักทั้ง 2 แห่ง นอกจากนี้ ยังรอผลการชันสูตรจากแพทย์นิติเวชอย่างละเอียดว่าแมวที่ตายนั้นผิดธรรมชาติหรือไม่ เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ และหาว่า เกิดจากการถูกทารุณกรรมหรือไม่ แม้ว่าผู้เสียหายจะนำซากแมวไปให้สัตวแพทย์ชันสูตรแล้วก็ตาม
สำหรับการตรวจค้นที่บ้านและห้องพักของดีเจสาวเมื่อวานนี้พบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องบางส่วน แต่ยังไม่สามารถระบุชัดได้ว่า จะมีประโยชน์ต่อรูปคดีมากน้อยเพียงใด ซึ่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบในบ้านและห้องพักอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนเรื่องเว็บไซต์ที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างว่า ดีเจสาวคนดังกล่าวนำแมวไปทารุณกรรมใน Dark web นั้น ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด
ขณะที่นิด้าโพลสำรวจประชาชนทั้งที่เลี้ยงสุนัข-แมว และไม่ได้เสี้ยง พบว่าทั้ง 2 กลุ่ม ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นทะเบียนสุนัข-แมว เพื่อแก้ปัญหาสุนัขและแมวจรจัด มองว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด เป็นเพียงการหารายได้ของรัฐเพิ่มภาระให้ประชาชน อาจเกิดปัญหาสุนัขและแมวถูกทิ้งหรือถูกกำจัด ส่วนที่เห็นด้วยบอกว่าเพื่อสร้างความรับผิดชอบต่อผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง
สำหรับค่าใช้จ่ายการขึ้นทะเบียนสุนัข-แมว จำนวน 450 บาท ส่วนใหญ่มองว่า ไม่เหมาะสม ไม่ควรมีค่าใช้จ่าย เรียกเก็บแพงเกินไป คนที่มีหลายตัวอาจไม่มีเงินมากพอ
ส่วนค่าปรับไม่เกิน 25,000 บาท/ตัว ในกรณีฝ่าฝืนการขึ้นทะเบียนสุนัข-แมว มากถึงร้อยละ 85.37 ไม่เห็นด้วย ไม่ควรมีค่าปรับ เรียกเก็บแพงเกินไป ขณะที่บางส่วนระบุว่า ไร้สาระ ไม่มีประโยชน์
ขณะที่มีความเห็นว่าการขึ้นทะเบียนสุนัข-แมว จะช่วยแก้ปัญหาสุนัขและแมวจรจัด และป้องกันการเลี้ยงสัตว์อย่างปล่อยปละละเลยได้ ดีขึ้น และเท่าเดิม ใกล้เคียงขณะที่ร้อยละ 28.09 ระบุว่าได้แย่ลง
ส่วนแนวทางแก้ปัญหาสุนัขและแมวจรจัด และป้องกันการเลี้ยงสัตว์อย่างปล่อยปละละเลย ประชาชนมากกว่าครึ่ง เห็นว่า ควรฉีดวัคซีนและทำหมันสุนัขและแมวฟรีทั้งประเทศ รองลงมา คือการปลูกจิตสำนึกให้ผู้เลี้ยงสุนัขและแมวมีความรับผิดชอบ รู้วิธีเลี้ยงสัตว์อย่างถูกต้อง นอกนั้นก็มีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยฝึกอบรมการฉีดวัคซีนและวิธีการทำหมันให้ประชาชน รวมทั้งมีศูนย์พักพิงสุนัขและแมวที่เพียงพอ มีมาตรฐาน .- สำนักข่าวไทย