กทม. 20 ต.ค.-สำนักข่าวไทย ตรวจสอบข้อมูล “Dark Web” พบเป็นเว็บไซต์ที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ยากและเนื้อหาเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวไทย รายงานจาก สน.เพชรเกษม ว่า ล่าสุดยังไม่มีการนำตัวหญิงสาว ที่มีการอ้างว่าเป็นผู้ฆ่าโหดแมว เพื่อแลกกับเงินสกุลดิจิทัลใน “Dark Web” นอกจากนี้ยังไม่มีการนำกำลังไปตรวจค้นบ้านพักเพิ่มเติม เพื่อหาพยานหลักฐานประกอบในคดี
ขณะที่สำนักข่าวไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับ “Dark Web” พบว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายอินเทอร์เน็ต อธิบายคร่าวๆ คือ หากเป็นเว็บไซต์สาธารณะ หรือ Public Web จะมีสัดส่วน 4 เปอร์เซ็นจากเว็บไซต์ทั้งหมด โดยสามารถค้นหาผ่านเสิร์ช เอนจิน อาทิ Google Chrome, Internet Explorer หรือ Firefox โดยเป็นเว็บไซต์ที่ใช้งานทั่วไป
ลึกลงไปอีกอีกระดับคือ “Deep Web” หรือเว็บไซต์ที่ซ่อนเร้นเอาไว้ มีสัดส่วน 96 เปอร์เซ็นจากเว็บไซต์ทั้งหมด ใช้โปรแกรมดูข้อมูลเหมือน “Public Web” แต่เว็บเหล่านี้ค้นหาผ่านเสิร์ช เอนจิน ไม่ได้ และต้องทราบที่อยู่ของเว็บโดยตรง เพราะมีเฉพาะตัว อาทิ บริการอีเมลเข้ารหัส, งานวิชาการ หรือ ข้อมูลลับทางธนาคาร และระดับลึกลงไปล่างสุด คือ “Dark Web” หรือ เว็บมืด หรือ บางกลุ่มเรียกว่า “ตลาดมืด” ต้องใช้โปรแกรมพิเศษเข้าถึง และเข้าถึงได้ยากมาก หากเป็นบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการใดๆ ในเว็บ ส่วนเนื้อหาเต็มไปด้วยความรุนแรง ไร้กฎเกณฑ์ควบคุม บางเว็บไซต์ใช้ซื้อขายยาเสพติด, อาวุธ, สินค้าหนีภาษี รวมถึงว่าจ้างนักฆ่า, ซื้อขายข้อมูลรหัสบัตรเครดิต, ข้อมูลจากแฮกเกอร์เกี่ยวกับปฏิบัติการลับของรัฐบาลต่างๆ รวมถึงซื้อขายวิดีโอลามกอนาจาร และซื้อขายวิดีโอหรือถ่ายทอดสดการฆาตกรรม หรือ การทรมาน ทั้งคนหรือสัตว์
ในปฏิบัติการ Bayonet เมื่อปี 2560 ซึ่ง FBI สหรัฐ ร่วมมือกับหลายประเทศ ทลาย “Dark Web” แห่งหนึ่งชื่อ “Alpha Bay” สามารถจับผู้ต้องหาชาวแคนาดา คือ “อเล็กซานเดอร์ แคส” แฮกเกอร์อัจฉริยะ พร้อมยึดทรัพย์รวม 726 ล้านบาท ทั้งบ้านหรูย่านพุทธมณฑลสาย 2 ราคา 50 ล้านบาท บ้านพักตากอากาศในภูเก็ต ราคา 200 ล้านบาท รวมถึงรถซูเปอร์คาร์หลายคัน สืบเนื่องจากมีการตรวจพบเซิร์ฟเวอร์ “Alpha Bay” ในไทย โดยเว็บไซต์ “Alpha Bay” เป็นเพียงหนึ่งใน “Dark Web” ที่มีการซื้อขายสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันนิยมใช้สกุลเงินดิจิทัล อาทิ “บิทคอยน์” ในการแลกเปลี่ยน แต่ผู้ต้องหาคนนี้ได้ก่อเหตุผูกคอตัวเองเสียชีวิตในห้องขังของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จากข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ในตลาดมืด มีการซื้อ-ขายสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ใช้สกุลเงินดิจิทัลแลกเปลี่ยน และมีเงินหมุนเวียนมหาศาล.-สำนักข่าวไทย