นายกฯ พอใจผลการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 12

กรุงบรัสเซลส์  20 ต.ค.-นายกฯ พอใจผลการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 12  เผยหลายประเทศสนใจร่วมลงทุนใน EEC และได้ยืนยันกับทุกประเทศว่าไทยจะมีการเลือกตั้งปีหน้า ขอนักการเมืองร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศ วอนอย่าสร้างความขัดแย้ง จะทำให้ประเทศเสียโอกาส


“เพ็ญพรรณ แหลมหลวง” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย รายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป (ASEM Summit) ครั้งที่ 12 และการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป-อาเซียน (EU – ASEAN Leaders’ Meeting) ระหว่างวันที่ 18-20 ตุลาคม 2561 ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 12 ว่า ในการประชุมครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 วาระ 51 ประเทศสมาชิก ซึ่งได้มีการหารือกันหลากหลายประเด็น ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ การพัฒนาที่ยั่งยืน และการรับมือกับภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของผู้นำ และการประชุมสหภาพยุโรป-อาเซียน โดยในการมาครั้งนี้ได้พบปะกับผู้นำหลายประเทศในเวทีการประชุม ซึ่งมีความคุ้นเคยกัน เพราะเคยเข้าร่วมประชุมเอเชีย-ยุโรป เป็นครั้งที่สาม และยังพบกันแบบทวิภาคี ทั้งได้หารือถึงความร่วมมือที่ไทยมีต่อมิตรประเทศเหล่านี้

“หลายประเทศทราบถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะโครงการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ซึ่งถือเป็นการสร้างมิติใหม่ด้านการลงทุน รวมถึงหารือถึงปัญหาอุปสรรคที่ค้างคากับบางประเทศ และมีความคืบหน้าในการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ โดยจะเร่งขับเคลื่อนให้เกิดผลสำเร็จได้ภายในรัฐบาลหน้า ทั้งในส่วนของไทย อียู อาเซียน และกรอบความร่วมมือต่าง ๆ  ซึ่งผลจากการหารือกับทั้ง 9 ประเทศ ต่างให้ความสนใจในโครงการอีอีซีของไทย ซึ่งบางประเทศได้ศึกษาความเป็นไปได้แล้ว ขณะที่บางประเทศ เช่น เอสโตเนีย จะศึกษาลู่ทางการลงทุนในไทยด้วยเช่นกัน ส่วนผู้นำเยอรมันก็ได้พบปะ และนัดหมายที่จะเดินทางไปเยือนในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะได้พูดคุยกันถึงประเด็นความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในการประชุมครั้งนี้ หลายประเทศมีความเชื่อมั่นในประเทศไทย ซึ่งเป็นผลทั้งจากการคุ้นเคยและการรู้จักประเทศไทยเป็นอย่างดี รวมถึงการพยายามทำความเข้าใจและชี้แจงการดำเนินการทุกอย่างของรัฐบาล ซึ่งตนได้ย้ำว่าวันนี้ประเทศไทยมีความเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน ที่สำคัญคือเน้นย้ำในเรื่องประชาธิปไตยกับทุกประเทศ เพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าไทยกำลังเดินหน้าการเมืองที่มีความถูกต้อง มีความเป็นสากล และป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นอีก

“ดังนั้นจึงต้องขอความร่วมมือจากนักการเมืองและฝ่ายต่าง ๆ ที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อประเทศ ทุกคนต้องคิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อให้นานาชาติเชื่อมั่นในประเทศไทย ทั้งนี้ทุกประเทศต้องการที่จะมาลงทุนในไทย แต่มีคำถามว่าสิ่งที่เป็นอยู่จะมีความยั่งยืนหรือไม่ ซึ่งได้ยืนยันไปว่าการทำงานตลอด 4 ปีของรัฐบาล เพื่อให้ทุกอย่างยั่งยืน เพราะขณะนี้ไทยมียุทธศาสตร์ชาติ มีแผนแม่บทของการพัฒนา พร้อมกลไกส่งเสริมการลงทุนที่เป็นธรรม และเหมาะสม บนพื้นฐานที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในที่ประชุมให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการพัฒนาฝีมือแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการในพื้นที่อีอีซี โดยให้ความมั่นใจกับทุกประเทศว่าจะไม่ขาดแคลนแรงงาน เพราะได้วางแผนที่จะผลิตแรงงานให้ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในอีอีซี ที่เป็นการสร้างมูลค่าให้กับตลาดแรงงานไทยด้วย ซึ่งทั้งหมดจะเป็นการสร้างมูลค่าให้กับประเทศ เพื่อนำรายได้กลับมาดูแลประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย นำมาพัฒนาการศึกษา และให้บริการด้านสาธารณสุขที่ครอบคลุม


“เชื่อมั่นว่าความร่วมมือในกรอบอาเซมกับภูมิภาคเอเชีย และอาเซียน จะสร้างประโยชน์ในภาพรวมให้กับประชาชนของทุกประเทศ และผมอยากจะบอกว่า การมาในวันนี้ ผมได้รับเกียรติจากทุกประเทศ พร้อมทั้งได้รับความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย เหมือนกับที่ผมเคยกล่าวว่าใครก็ตามที่จะมาเป็นรัฐบาล ต้องทำให้ประเทศไทยมีศักดิ์ศรี มีที่ยืนบนเวทีโลกอย่างมีเกียรติ สมภาคภูมิของความเป็นไทย และความมีศักยภาพมากมายที่ต่างประเทศทราบในสิ่งเหล่านี้ดี เพียงแต่ไทยต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น ซึ่งผมได้ใช้ทุกเวทีในการยืนยันถึงความมุ่งมั่นและความมั่นใจที่ดี ซึ่งจะทำให้ทุกประเทศพร้อมที่จะร่วมมือกับไทย ขอเพียงภายในอย่าทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง การเลือกตั้ง เพราะจะทำให้โอกาสของประเทศไทยหายไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในเวทีได้สอบถามถึงการช่วยเหลือเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คน และได้ชื่นชมความสำเร็จในปฏิบัติการช่วยเหลือดังกล่าว ตนจึงถือโอกาสขอบคุณทุกประเทศที่ส่งความช่วยเหลือและส่งกำลังใจมา ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่เยาวชนทุกคนสนใจการศึกษา และมีแนวความคิดที่โตกว่าวัย มีความเข้มแข็งและเข้าใจเป็นอย่างดีในการปฏิบัติตัวว่าต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การช่วยเหลือ ถือเป็นตัวอย่างที่ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ หลังเสร็จภารกิจ นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ จะเดินทางออกจากที่ทำการคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปไปยังท่าอากาศยานกรุงบรัสเซลส์ เพื่อเดินทางจากกรุงบรัสเซลส์กลับประเทศไทย โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ แบบ Airbus A340-500 เที่ยวบินพิเศษกลับประเทศไทย โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง 30 นาที ถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ในเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม 2561.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย