นนทบุรี 13 ก.ย. – กระทรวงพาณิชย์เดินหน้ายุทธศาสตร์ระยะ 20 ปี เริ่มสานต่อโครงการต่อเนื่องตามแผนระยะเร่งด่วนในช่วง 18 เดือนแล้ว ก่อนวางแผนทำงานตามกรอบ มุ่งสู่เป้าหมายปฏิรูปการค้า ผลักดันให้ไทยก้าวเป็นผู้นำทางการค้าในตลาดโลกภายในปี 2579
นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า หลังจากยุทธศาสตร์ของกระทรวงพาณิชย์ในระยะ 20 ปี ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2559 ถึงปี 2579 ได้ผ่านการพิจารณาจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว ทำให้ในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกำลังเดินหน้าตามแผนระยะเร่งด่วน 18 เดือน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแผนงานเดิมที่เริ่มทำมาแล้วก่อนหน้านี้ เช่น การจัดตั้งสถาบันส่งเสริมสินค้าเกษตรนวัตกรรม เร่งรัดการแก้ปัญหาละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้ไทยพ้นจากบัญชีที่ต้องถูกจับตาเป็นพิเศษ หรือ PWL ภายในปี 2560 การปฏิรูประบบการผลิตและค้าสินค้าเกษตรโดยใช้ตลาดนำการผลิต แก้กฎหมายการค้าต่าง ๆ และการดูแลผู้บริโภค เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค มีทางเลือกซื้อสินค้าราคาเป็นธรรมและลดค่าครองชีพผ่านโครงการธงฟ้า และแอพพลิเคชั่น ลายแทงของถูก รวมทั้งการกระชับความร่วมมือกับ กลุ่มประเทศ CLMV เพื่อลดอุปสรรคการค้า การลงทุน และส่งเสริมการใช้ประโยชน์ความตกลงการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น
ส่วนเป้าหมายระยะ 20 ปี หรือภายในปี 2579 ไทยต้องปฏิรูปการค้าปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกช่วยให้เศรษฐกิจไทยก้าวจากภาวะกับดักรายได้ปานกลางสอดคล้องกับนโยบายประเทศไทย 4.0 รวมทั้งสามารถก้าวขึ้นไปเป็น 1 ในประเทศผู้นำตลาดของโลก โดยแบ่งเป็น 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ การพัฒนาผู้ประกอบการแบบครบวงจร เพื่อให้มีความสามารถแข่งขันในระดับภูมิภาคและระดับโลก การพัฒนาระบบการค้าให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างครบวงจร เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงจากภายนอก การส่งเสริมบทบาทผู้บริโภคเพื่อรองรับระบบเศรษฐกิจการค้าในอนาคต และการบูรณาการกับระบบการค้าโลกเพื่อใช้ประโยชน์จากภายนอก และอาศัยความได้เปรียบจากการเป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาคที่สามารถเชื่อมประเทศที่ยังมีแนวโน้มเศรษฐกิจขยายตัวอย่างจีน และอินเดีย มาเชื่อมโยงการค้า
ทั้งนี้ แบ่งการทำงานเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ปี 2559-2564 ปฏิรูปการค้า เน้นปรับกฎหมาย และวางระบบการค้า ระยะที่ 2 ปี 2565-2569 เป็นห่วงโซคุณค่าสำคัญของภูมิภาค เน้นพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถเป็นผู้นำตลาดภูมิภาค ระยะที่ 3 ปี 2570-2574 เป็นห่วงโซคุณค่าสำคัญของโลก เน้นยกระดับความสามารถของผู้ประกอบการไทยให้เป็นผู้ค้าสำคัญของโลก และระยะที่ 4 ปี 2573-2579 ก้าวเป็นผู้นำในตลาดโลก ซึ่งจะมีการประชุมวางแนวทางตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม มั่นใจหากสามารถดำเนินงานได้ตามแผน ไทยจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทางการค้าทั้งในภูมิภาคเอเชียและตลาดโลก โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่ไทยมีศักยภาพ น่าจะสามารถขึ้นเป็นผู้นำตลาดได้ไม่ยาก แต่หากไทยไม่ปรับตัวตามสถานการณ์ทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงไปก็จะกลายเป็นประเทศที่เสียประโยชน์แทน และก้าวไม่ทันกับประเทศที่มีการปรับตัวและได้ประโยชน์ไปแทน.-สำนักข่าวไทย