ภูเก็ต 13 ต.ค.- รฟม.ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
เดินหน้ารถไฟฟ้ารางเบาแล้ว โดยร่วมหารือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เห็นด้วยกับโครงการ
และสนใจมีส่วนร่วมพัฒนาระบบขนส่งต่อเชื่อม รถโดยสาร (ฟีดเดอร์) จากสถานีไปแหล่งท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังรัฐบาลส่งสัญญาณชัดเจน
ที่จะเดินหน้าพัฒนาระบรถไฟฟ้า เพื่อเป็นระบบขนส่งมวลชนทางเลือกให้แก่ประชาชนในส่วนภูมิภาค
ที่เป็นจังหวัดสำคัญ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว และล่าสุด นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ได้เดินทางให้นโยบายกระทรวงคมนาคม โดยขอให้เร่งรัดงานในจังหวัดที่มีความพร้อมทันที
ไล่ไปตั้งแต่จังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น
นครราชสีมา
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม.ทั้งจากฝ่ายพัฒนาโครงการ
ฝ่ายกฎหมาย และฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการ พร้อมด้วยบริษัทที่ปรึกษา ได้ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อเดินหน้าโครงการ
หลังจากที่ก่อนหน้านี้
รฟม.ได้มอบหมายให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์
การให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการระบบขนส่งมวลชน หรือรถไฟฟ้ารางเบา
เส้นทางท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ต ถึงห้าแยกฉลอง เพื่อศึกษาแนวทางการลงทุนที่เหมาะสม ในการให้เอกชน
และ/หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมลงทุนในโครงการ
ตามกรอบ พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมทุนฯ พ.ศ.2556
โดยการหารือมีผู้แทน จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลเข้าร่วม ผลการหารือ รฟม.ได้นำเสนอข้อมูลของโครงการ ฯ
เบื้องต้น ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เห็นด้วยถึงความจำเป็นต้องพัฒนาระบบขนส่งมวลชนรองรับ
การเติบโตของเมือง และนักท่องเที่ยวของภูเก็ต ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงปัญหาการจราจรที่ติดขัดภายในเขตเมือง
อย่างไรก็ตาม อปท.มีข้อเสนอแนะ และความสนใจในหลายประเด็น
โดยเฉพาะเรื่องการเข้ามามีบทบาทมีส่วนร่วมในโครงการ อาทิ อปท.ในเขตเทศบาล
หรืออบต.สนใจที่จะให้ประชาชน
และผู้ประกอบอาชีพ ในพื้นที่ มีส่วนร่วมจัดหารถโดยสาร เพื่อให้บริการระบบขนส่งต่อเชื่อม
หรือฟีดเดอร์ จากสถานีรถไฟฟ้า ไปยังแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างรายได้และการมีส่วนร่วมของชุมชน นอกจากนี้ อปท.ได้มีข้อเสนอแนะ เช่น ขอให้รฟม.ดูแล การจัดการจราจร
ภายหลังเปิดให้บริการโครงการให้ดี เนื่องจากรถไฟฟ้ารางเบา ที่เมื่อวิ่งเข้าเขตเมือง มีการวิ่งในระบบเสมอถนน และใช้ผิวจราจรร่วมกันกับรถยนต์ทั่วไปในบางจุด จำเป็นต้องมีการจัดระบบสัญาณจราจรให้ดี รวมทั้ง อปท.ยังมีข้อเสนอแนะ เรื่องการดูแลผิวจราจรให้เพียงพอระหว่างก่อสร้าง
และปัญหาน้ำท่วมขังบางจุด ที่พึงระวัง ซึ่ง รฟม.ได้รับข้อเสนอ ความเห็นทั้งหมดกลับมาพิจารณา โดยในอนาคต รฟม.จะยังมีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
เพื่อเปิดรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ทั้งจากชุมชน
ภาคเอกชน ต่อไป
นอกจากนี้ ฝ่ายสื่อสารองคกร
รฟม.ยังได้ร่วมหารือกับประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์ โครงการให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบ
แนวทางการพัฒนาโครงการ
ทั้งนี้ โครงการ รถไฟฟ้ารางเบาจังหวัด ภูเก็ต มีแผนการพัฒนา 2 ระยะ
โดยเฟสที่ 1 เส้นทางจาก 5 แยกฉลอง ไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต และเฟสที่ 2
ต่อเส้นทางไปยังท่านุ่น โดยทั้ง 2
เฟสมีระยะทางรวม 53.49 กิโลเมตร รวม 24 สถานี
โดยเฟสที่ 1 แบ่งเป็นสถานี
ระดับดิน 19 สถานี ยกระดับ 1 สถานี (สถานีท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต)
และ ใต้ดิน 1 สถานี (สถานีถลาง) งบลงทุนว่า
30,000 ล้านบาท มีโรงจอดและศูนย์ซ่อมบำรุง
เนื้อที่ 37 ไร่ ที่อ.ถลาง การเดินรถ
ความเร็วนอกเมือง สูงสุดอยู่ที่ 80 กม./ชม. ช่วงในเมือง อยู่ที่ 20-40 กม./ชม.
ความจุของระบบอยู่ที่ 2,000 คนต่อชั่วโมง
การลงทุนเบื้องต้นเป็นรูปแบบ PPP ซึ่งจะมีการเลือกรูปแบบPPP
ที่เหมาะสมต่อไป .-สำนักข่าวไทย
