สาวถูกโชเฟอร์รถตู้ตบหน้า เข้าแจ้งความ

ปทุมธานี 12 ต.ค.-พยาบาลสาวถูกโชเฟอร์รถตู้ตบหน้า เข้าแจ้งความดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกาย ด้านนายท่ารถตู้เผยปกติใจเย็น แต่เพิ่งทะเลาะกับภรรยา อาจเครียด ล่าสุดยังติดต่อเจ้าตัวไม่ได้


ผู้ใช้ Facebook ชื่อ “Mai Nur” โพสต์คลิปวงจรปิด พร้อมระบุเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยผู้เสียหายที่ลงจากรถตู้โดยสาร ก่อนถูกคนขับรถตู้ลงจากรถ มาตบที่ใบหน้า 1 ครั้ง ทำให้เป็นที่สนใจในโลกออนไลน์และมีคนมาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยภาพวงจรปิดจะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด โดยรถคันที่เกิดเหตุได้ขับมาจอดที่ริมถนน จากนั้นผู้เสียหายได้ลงจากรถตู้พร้อมกระเป๋าล้อลาก จากนั้นโชเฟอร์ได้ลงจากนั้น ก่อนพูดคุยกันหนึ่งประโยค ก่อนเหวี่ยงฝ่ามือเข้าตบที่ใบหน้าของพยาบาลผู้เสียหาย


นางสาวนัทธมน นวลสาร อายุ 38 ปี อาชีพพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในสมุทรสาคร เดินทางเข้าพบสารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองกลับบ้านเป็นประจำที่ศรีสะเกษ แต่วันเกิดเหตุได้นั่งรถญาติกลับมาและลงที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงหารถกลับสมุทรสาคร จากนั้นจึงพบรถตู้สายกรุงเทพฯ-ลพบุรีจอดอยู่ จึงถามว่ามีรถตู้จากวังน้อยไปมหาชัยไหม กระเป๋ารถตู้จึงบอกว่าไม่มี ต้องนั่งไปลงกรุงเทพฯ หรือรังสิต จึงตัดสินใจขึ้นรถไปลงที่รังสิต

จากนั้นระหว่างนั่งบนรถตู้ ได้คุยโทรศัพท์กับน้องที่ทำงานไม่เกี่ยวกับคนในรถหรือโชเฟอร์ ใช้เวลาคุยกันนาน 19 นาที พอรถมาถึงรังสิตจึงลงรถและเดินไปที่ริมถนน แต่ก็ได้ยินเสียงโชเฟอร์รถตู้ตะโกนมาว่า “มึงว่าอะไรกู” ทีแรกคิดว่าเป็นการเรียกคนอื่นหรือมีเรื่องกับคนอื่น แต่พอหันไปอีกทีเห็นคนขับรถตู้เดินปรี่เข้ามา และใช้มือตบหน้าตัวเอง 1 ครั้ง ก่อนโชเฟอร์คนดังกล่าวถามซ้ำอีกว่า “มึงว่าอะไรกู” ทำให้ตนเองตกใจมากและยืนงงอยู่พักหนึ่ง จากนั้นโชเฟอร์จึงเดินกลับไปที่รถ


ด้าน พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดเชโชติพิสิฐ ผู้กำกับการ สภ.ประตูน้ำฬาลงกรณ์ กล่าวว่าได้รับแจ้งความตั้งแต่เมื่อวานนี้  โดยทราบทะเบียนและเส้นทางวิ่งแล้ว และทราบตัวโชเฟอร์ ซึ่งนายท่ารถตู้ได้ติดต่อมายังตำรวจ และบอกว่าโชเฟอร์คนดังกล่าวยอมรับว่าก่อเหตุจริง เพราะบันดาลโทสะ แต่ไม่บอกเหตุผลว่าเรื่องใด ก่อนนัดเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ (12 ต.ค.) แต่ถึงขณะนี้กลับติดต่อไม่ได้ เบื้องต้นเตรียมดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนทางแพ่งเป็นสิทธิ์ของผู้เสียหายที่จะฟ้องร้อง ขณะที่ข้อหาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ “สาหัส” หรือไม่นั้น ต้องรอผลตรวจจากแพทย์อีกครั้ง

ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ท่ารถตู้เพื่อตามหาโชเฟอร์คนดังกล่าว โดยพบรถหมายเลข 12/103 สายกรุงเทพ-ลพบุรี จอดอยู่ในอู่แห่งหนึ่งกลางเมืองลพบุรี ตรวจสอบทะเบียนรถ คือ 10-2748 กรุงเทพฯ จากนั้นได้สอบถามนายท่า ซึ่งเป็นผู้หญิงได้ให้ข้อมูลว่า รถคันนี้ผู้จัดการท่ารถเพิ่งไปพบรถจอดทิ้งไว้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในสระบุรี โดยนายมานะ นามเงิน หรือ “จ๊อด” อายุ 35 ปีเป็นคนขับ ได้ทิ้งรถไว้และหลบหนีไป ซึ่งนายท่ารถ ยอมรับว่า ปกตินายจ๊อดมีนิสัยร่าเริง ใจเย็น ขับรถตู้โดยสารมาหลายปี ไม่เคยมีปัญหาใดๆ แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน “จ๊อด” บ่นให้ฟังว่าทะเลาะกับภรรยาเรื่องแยกทางกัน จึงเครียด และอาจเป็นสาเหตุที่ไปทำร้ายร่างกายผู้โดยสาร

ทั้งนี้ นายท่ารถตู้ต้นสังกัดของโชเฟอร์คนนี้ ได้พยายามติดต่อแล้วแต่ติดต่อไม่ได้ จึงไม่อยากให้หลบหนีและให้เข้ามอบตัว เพราะไม่ใช่คดีใหญ่โต ซึ่งหากเข้ามอบตัวก็พร้อมจะให้กลับเข้ามาทำงานตามปกติ แต่หากยังหนีก็จะปลดออกจากการเป็นพนักงานทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]