น้ำมันลง 50 สตางค์ ด้านวินจยย. เสียงแตกรัฐหนุนราคาน้ำมัน 3 บาท

กทม.12 ต.ค.-ปตท.-บางจากฯ ลดราคาขายปลีกกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ 50 สต./ลิตร ด้านผู้ขับขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้างเสียงแตก กับนโยบายลดค่าโดยสารหากรัฐช่วยค่าน้ำมันอีก 3 บาท ส่วนใหญ่เรียกร้องเพิ่มสวัสดิการรักษาพยาบาล


เริ่มที่มีข่าวดี ปตท.-บางจากฯ ประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลง 50 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้น E85 ลดลง 30 สตางค์ต่อลิตร ส่วนดีเซลและดีเซลพรีเมี่ยม คงเดิม มีผล 13 ตุลาคม 2561 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้ เบนซิน 95 ลิตรละ 38.06 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 30.95  บาท E20 ลิตรละ  27.94 บาท แก๊สโซฮอล์  91 ลิตรละ 30.68 บาท E85 ลิตรละ 21.74  บาท ดีเซล  29.89 บาท และดีเซลพรีเมี่ยม 32.89 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร


จากรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และผู้บริหาร ปตท. เพื่อดึง ปตท.และปั๊มน้ำมันเอกชนรายอื่น รวมทั้งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ช่วยกันอุดหนุนราคาน้ำมันให้กับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และลงทะเบียนมอเตอร์ไซค์รับจ้างกับกรมการขนส่งทางบก ประมาณ 300,000 คันทั่วประเทศ ด้วยการชดเชยราคาแก๊สโซฮอลล์ 95 ราคา 3 บาท/ลิตร คาดว่าจะใช้เงิน 300 ล้านบาท หวังช่วยลดภาระในช่วงราคาน้ำมันตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น เร่งสรุปแผนให้เสร็จในช่วง 3 เดือนข้างหน้า เพราะราคาน้ำมันเป็นสิ่งจำเป็นต้นทุนต่อประชาชนรายย่อย จึงต้องช่วยส่วนลดราคาน้ำมันให้กับรายย่อย เริ่มอุดหนุนปลายปีนี้ 

ด้านความคิดเห็นของผู้ขับมอเตอร์ไซด์รับจ้างมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับนโยบายอุดหนุนราคาน้ำมันของรัฐบาล ส่วนใหญ่เรียกร้องเพิ่มสวัสดิการรักษาพยาบาล ภายหลังจากรัฐบาลเตรียมอุดหนุนราคาน้ำมันให้กับผู้ขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและลงทะเบียนมอเตอร์ไซค์รับจ้างกับกรมการขนส่งทางบกนั้น  


นายนรงค์ ฤทธิ์อ้น ผู้ขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ มองว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุและเป็นเงินเพียงเล็กน้อย อยากให้ช่วยเหลือเป็นก้อนใหญ่ ๆ มากกว่า และอยากให้มีประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้ขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งสามารถเกิดอุบัติเหตุได้ทุกวันจะเป็นการแก้ไขที่ตรงจุดมากกว่า

ส่วนนายประสานต์ ทองอ่อน ผู้ขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเห็นด้วยกับนโยบายนี้ มองว่า เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่าย ช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ส่วนการให้เติมน้ำมันที่ปั๊ม ปตท.เพียงอย่างเดียวอาจจะเป็นการผูกขาดเกินไป เพราะปกติน้ำมันหมดที่ไหนก็เติมที่นั่น ส่วนราคาค่าโดยสารนั้น มองว่าปัจจุบันอยู่ในอัตราที่เหมาะสมแล้ว ไม่ควรลดลงอีก โดยอยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือเรื่องสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลและครอบครัว เช่น ค่าเทอมบุตร มากกว่าการลดราคาแก๊สโซฮอลล์ 95

ขณะที่นายตุ๊ ทองแท้ ผู้ขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง กล่าวว่า เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว ปกติใช้แก๊สโซฮอลล์ 95 อยู่แล้ว แต่หากกำหนดว่าต้องเติมน้ำมันที่ปั๊มใดปั๊มหนึ่งเป็นพิเศษ ก็จำเป็นต้องมีการวางแผนก่อนการเติมน้ำมัน ส่วนค่าโดยสารจะมีการปรับลดหรือไม่นั้น ต้องรอให้นโยบายชัดเจนก่อน จึงจะมีการหารือกันในวิน ถ้าทุกวินลดราคาก็พร้อมลดราคา ซึ่งเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มสวัสดิการการรักษาพยาบาลให้กับผู้ขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างด้วย

ส่วนวันนี้ ( 12 ต.ค ) เป็นวันแรกที่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยหรือ Thailand Future Fund (TFFIF)  ได้เปิดจองซื้อหน่วยลงทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวนที่จัดสรรให้รายย่อยประมาณ 1,845 – 2,056 ล้านหน่วย ราคาหน่วยละ 10 บาท โดยผู้จองซื้อทั่วไปสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 หน่วย หรือ 10,000 บาท และเป็นจำนวนทวีคูณของ 100 หน่วย หรือ 1,000 บาทโดยไม่จำกัดจำนวนที่จองซื้อ เปิดจองซื้อหน่วยลงทุนในวันที่ 12-19 ตุลาคมนี้ 

สำหรับกองทุน TFFIF ลงทุนในสิทธิในการรับส่วนแบ่งรายได้ร้อยละ 45 ของรายได้ค่าผ่านทางรวมสุทธิ  ที่จัดเก็บได้เป็นระยะเวลา 30 ปีของทางพิเศษฉลองรัชและทางพิเศษบูรพาวิถี  และจะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้พัฒนาโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 เชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออกและส่วนต่อขยายทดแทน ตอน N1 โดยประมาณการอัตราการปันส่วนแบ่งให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในปีแรกอยู่ที่ร้อยละ 4.75 – 5.30 

โดยจองซื้อที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)  ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)  (ยกเว้นสาขาไมโคร)  บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) (เฉพาะลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน)  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือจองระบบ Money Connect by Krungthai ที่ https://www.moneyconnect.ktbnetbank.com  หรือ http://www.ktb.co.th หรือ สแกน QR Code Money Connect by Krungthai 

สำหรับการจัดสรรหน่วยลงทุน TFFIF ให้แก่ผู้จองซื้อทั่วไปครั้งนี้จะใช้วิธีการจัดสรรแบบ Small Lot First ตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นการจัดสรรหน่วยลงทุนให้แก่ผู้จองซื้อทั่วไปทุกราย ตามจำนวนหน่วยจองซื้อขั้นต่ำที่ 1,000 หน่วยในรอบแรกและวนไปเรื่อย ๆ รอบละ 100 หน่วย จนกว่าจะจัดสรรครบตามจำนวน สำหรับเอกสารประกอบในการจองซื้อหน่วยลงทุน คือ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร เงินสด โดยจะประกาศหน่วยลงทุนสำหรับผู้จองซื้อทั่วไป ได้ในวันที่ 22 ตุลาคม 2561.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

เพลิงไหม้หอพักพยาบาล รพ.ศิริราช

กทม. 29 มิ.ย. – เพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้แล้ว ช่วยผู้ติดค้างออกมาได้อย่างปลอดภัย วันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 12.30 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่วมไทร เหตุเพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล (แปดไร่) โรงพยาบาลศิริราช ถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์ สปภ.กทม. ถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันจำนวนมากบริเวณชั้นใต้ดิน จึงทำการตรวจสอบและอพยพผู้ที่ติดค้างด้านบนลงมา เวลา 12.55 น. พบจุดต้นเพลิงบริเวณชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้น้ำทำการดับ มีผู้ติดค้างภายในลิฟต์ชั้นที่ 12 เจ้าหน้าที่และช่างลิฟต์ประจำอาคาร ได้ทำการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย เวลา 13.04 น. เพลิงสงบ .-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพา ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าผ่านแดน

29 มิ.ย.- กองกำลังบูรพา ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้า ผ่านเข้า-ออก 3 ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจำกัดเวลา-จำนวนคัน เริ่มวันนี้ (29 มิ.ย.) และให้แล้วเสร็จใน 7 วัน ลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนตามหลักมนุษยธรรม กองกำลังบูรพา ออกประกาศ เรื่อง การควบคุมด่านชายแดนไทย-กัมพูชา 1. ตามที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาตรวจราชการ และประชุมหารือประเด็นผลกระทบมาตรการการควบคุมด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 โดยให้หน่วยงานความมั่นคง ประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการควบคุมชายแดน และที่ประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีมติเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ให้มีการผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าไทยที่ตกค้าง และรถขนส่งสินค้าตามใบขนสินค้าขาออก หรือใบขนสินค้าผ่านแดน ที่ได้ส่งข้อมูลเข้ามาในระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร ก่อนวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ข้ามไปยังกัมพูชาและกลับเข้ามายังราชอาณาจักรไทย 2. เพื่อเป็นการลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนตามหลักมนุษยธรรม และเพื่อให้การปฏิบัติการควบคุมสอดคล้องกับการดำเนินการตามข้อ 1 กองกำลังบูรพา จึงขอประสานให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้2.1 ให้ผ่านเข้า-ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท ได้วันละไม่เกิน […]

นายกฯ นำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว

เพื่อไทย 29 มิ.ย. – โฆษกพรรคเพื่อไทย เผยนายกฯ นำชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว รอหารือที่ประชุมพรรค 3 ก.ค.นี้ หลังมี สส.อีสาน ทวงเก้าอี้รองประธานสภาฯ คนที่ 2 นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสำคัญ ทราบว่าทางทำเนียบรัฐบาลได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว ขอให้รอขั้นตอนต่อไปว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาเมื่อใด ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า สส.ภาคอีสานพรรคเพื่อไทยทวงโควตาเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 หลังผิดหวังจากโผ ครม. นายดนุพร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งในการปรับคณะรัฐมนตรีทุกครั้ง ทุกพรรคมีแรงกระเพื่อมหมด ซึ่งแน่นอนว่ามีคนอยากเข้าไปทำงานเป็นเรื่องปกติ โดยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะมีการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 3 ก.ค. จะมีการพูดคุยถึงขั้นตอนหลายๆ อย่าง ส่วนเรื่องการเลือกรองประธานสภาฯ คนใหม่ ได้รับแจ้งว่าน่าจะก่อนวันที่ 15 ก.ค. ส่วนพรรคเพื่อไทยจะส่งใครเป็นตัวแทน […]

ปชน.ประณามแกนนำม็อบปราศรัยเจตนาปูทางรัฐประหาร

พรรคประชาชน 29 มิ.ย.-พรรคประชาชน ประณามแกนนำผู้ชุมนุมปราศรัยปลุกปั่นชาตินิยม เจตนาปูทางรัฐประหาร ย้ำทางออกจากวิกฤตการเมือง คือ ยุบสภา เปิดทางเลือกตั้งใหม่  พรรคประชาชนแสดงความเห็นถึงการชุมนุมเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) ว่า ความเห็นของพรรคประชาชนต่อการชุมนุมของ “คณะรวมพลังแผ่นดิน” การชุมนุมที่นำโดย “คณะรวมพลังแผ่นดิน” เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมานี้ ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แม้จะมีข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออก และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องตามปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ปรากฏว่า การปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร รวมถึงมีการปลุกปั่นกระแสชาตินิยมที่เกินเลยขอบเขต  พรรคประชาชนขอประณามการสร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหาร ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง  พรรคประชาชนขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนที่สนับสนุนการชุมนุมด้วยความไม่พอใจต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ถอนตัวจากการสนับสนุนคณะรวมพลังแผ่นดิน ที่มีแกนนำบางคนมีเจตนาสนับสนุนการรัฐประหารและการแทรกแซงการเมืองด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย เพราะแม้ว่าการแสดงออกทางการเมืองด้วยการชุมนุมประท้วงจะเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่พวกเราคนไทยต่างได้รับบทเรียนอย่างดีแล้วว่า 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศชาติและประชาชนบอบช้ำเสียหายอย่างไม่อาจประเมินได้จากการรัฐประหาร 2 ครั้ง และปัญหาการเมืองของเราไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย ผลพวงจากการรัฐประหารกลับซ้ำเติมปัญหาการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล การคอร์รัปชัน กระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยว และการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและกลุ่มทุนผูกขาดเสียด้วยซ้ำ วันนี้เราต้องไม่ยินยอมให้ใครฉวยโอกาสเอาความผิดพลาดล้มเหลวของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล มาเปิดทางให้กับการรัฐประหารหรือการแก้ปัญหาการเมืองด้วยวิถีทางที่ขัดต่อประชาธิปไตยอีก ซึ่งมีแต่จะก่อวิกฤตซ้ำซ้อนทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น พรรคประชาชน ขอยืนยันว่า ทางออกจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ที่ดีที่สุด คือหนทางปกติตามระบบรัฐสภา […]