ก.เกษตรฯ เร่งหาแนวทางยกเว้นค่าธรรมเนียมขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง

กรุงเทพฯ  12 ต.ค. – ก.เกษตรฯ เตรียมหารือกฤษฎีกา ยกเว้นการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงและแยกประเภทเป็นเลี้ยงในครอบครัว เลี้ยงเพาะพันธุ์เพื่อการค้า และเลี้ยงเพื่ออุปการะสัตว์จรจัด


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จะนำร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และจัดสวัสดิภาพสัตว์ (ฉบับที่…) พ.ศ….หารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อปรับปรุงรายละเอียดทั้งหมดตามที่ ครม.มีมติให้กระทรวงเกษตรฯ นำกลับมาทบทวน เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยว่าค่าธรรมเนียมขึ้นทะเบียนและค่าปรับกรณีไม่นำสัตว์มาขึ้นทะเบียนอาจเป็นภาระของประชาชนเกินควร 

ทั้งนี้ นายกฤษฎา ได้ขออภัยประชาชนที่ไม่ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนให้ชัดเจนก่อน จนกระทั่งเกิดความสับสนและตระหนกตกใจเกี่ยวกับค่าขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงตัวละ 450 บาท แบ่งเป็นค่าคำร้องขอขึ้นทะเบียน 50 บาท สมุดประจำตัวสัตว์ฉบับละ 100 บาท และเครื่องหมายประจำตัวสัตว์แบบอิเล็กทรอนิกส์ (Microchip) ส่วนที่มีราคาสูง คือ Microchip ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จะบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงตัวนั้น ๆ ในแผงวงจรขนาดเล็กแล้วฝังในผิวหนังสัตว์ กรณีสัตว์เลี้ยงหายสามารถติดตามส่งคืนเจ้าของได้ง่าย แต่ได้ให้กรมปศุสัตว์ตรวจสอบราคาที่แน่นอนอีกครั้ง


นายกฤษฎา กล่าวว่า จะทบทวนร่วมกับกฤษฎีกาว่าร่าง พ.ร.บ.จะสามารถยกเว้นค่าธรรมเนียมการขึ้นทะเบียนสัตว์ครั้งแรกได้หรือไม่ อีกทั้งตามร่างที่เสนอไปนั้นกำหนดไว้ว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทำหน้าที่รับขึ้นทะเบียนสัตว์สามารถพิจารณาจัดเก็บค่าธรรมเนียมเป็นจำนวนเท่าใดก็ได้ แต่ต้องไม่เกิน 450 บาท หรือจะยกเว้นการจัดเก็บก็ได้อีกเช่นกัน ขึ้นกับความพร้อมของแต่ละท้องถิ่น

สำหรับแนวทางที่จะทบทวนกับคณะกรรมการกฤษฎีกา คือ จะแบ่งประเภทเป็นการเลี้ยงสัตว์ในครอบครัว การเลี้ยงเพาะพันธุ์เพื่อจำหน่าย และการเลี้ยงเพื่ออุปการะสัตว์จรจัด ซึ่งจะมีรายละเอียดการขึ้นทะเบียนต่างกัน โดยเฉพาะการเลี้ยงเพื่ออุปการะสัตว์จรจัด ซึ่งเป็นการสงเคราะห์สัตว์ที่ถูกทอดทิ้งจะไม่จัดเก็บค่าธรรมเนียม 

นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนจะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ต่อ ครม.นั้น กรมปศุสัตว์ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญแล้ว แต่มีผู้สนใจแสดงความคิดเห็นน้อย จึงได้สั่งให้เปิดรับฟังความคิดเห็นอีกครั้งและจะรวบรวมข้อคิดเห็นทั้งหมดนำมาปรับปรุงร่าง พ.ร.บ. เพื่อให้มีความเหมาะสมและประชาชนไม่เดือดร้อน จากการที่มีผู้แสดงความคิดเห็นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาส่วนใหญ่เห็นด้วยกับวัตถุประสงค์ของร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและจัดสวัสดิภาพสัตว์ที่จะมีผลดีให้ผู้ที่คิดจะเลี้ยงสัตว์นั้นเลี้ยงด้วยความรับผิดชอบ ไม่ใช่เห็นว่าน่ารักตอนยังเล็กพอโตขึ้นก็นำมาปล่อยทิ้ง หรือเลี้ยงจำนวนมากเกินความสามารถที่จะดูแลไม่ให้เป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น ซึ่งต้องยอมรับว่าสัตว์จรจัดโดยเฉพาะสุนัขและแมวที่มีเป็นจำนวนมากทำให้เกิดอันตรายแก่ประชาชน รวมทั้งสัตว์ก็เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ถูกทำร้าย นอกจากนี้ ยังไม่ได้รับการจัดสวัสดิการทั้งฉีดวัคซีน ทำหมัน ทำให้แพร่พันธุ์จำนวนมาก รวมถึงเป็นพาหะโรคระบาดสัตว์โดยเฉพาะโรคพิษสุนัขบ้าที่เป็นปัญหารุนแรง และจะมีการพิจารณาถึงกรณีที่มีผู้นำอาหารมาเลี้ยงสัตว์จรจัดตามท้องถนนว่าจะดำเนินการให้เป็นระเบียบได้อย่างไร 


ทั้งนี้ เมื่อปรับปรุงร่าง พ.ร.บ. แล้วจะนำเสนอ ครม.เห็นชอบอีกครั้งก่อนจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งจะต้องมีการพิจารณา 3 วาระ โดยวาระที่ 2 จะต้องตั้งคณะกรรมาธิการทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมพิจารณา ซึ่งนายกฤษฎา จะเชิญทั้งผู้แทนสมาคมผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง สมาคมผู้เพาะพันธุ์สัตว์ รวมถึงสมาคมผู้สงเคราะห์สัตว์จรจัดมาร่วมให้ความคิดเห็นเพื่อให้รายละเอียดในข้อกฎหมายเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ปฏิบัติได้จริง และไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน 

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อนำมาปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและจัดสวัสดิภาพสัตว์ โดยเฉพาะเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการขึ้นทะเบียน เจตนารมย์ของกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้เป็นประโยชน์ทั้งต่อคนและสัตว์ โดยเฉพาะการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า กรมปศุสัตว์ร่วมกับ อปท.สำรวจจำนวนสุนัขและแมวทั่วประเทศมีประมาณ 10 ล้านตัว โดยมีสุนัขทั้งหมด 7,380,810 ตัว เป็นสุนัขมีเจ้าของ  6,622,364  ตัวและเป็นสุนัขไม่มีเจ้าของ 758,446 ตัว ส่วนจำนวนแมวทั้งหมด 3,035,645 ตัว เป็นแมวมีเจ้าของ 2,541,009 ตัว  แมวไม่มีเจ้าของ  474,142 ตัว ทั้งนี้ ปี 2561 มีเป้าหมายฉีดวัคซีนให้กับสุนัขและแมวทั้งที่มีเจ้าของและไม่มีเจ้า 8,240,000 ตัว เพื่อสร้างภูมิคุมกันระดับฝูงให้ได้ไม่น้อยกว่า 80% ของจำนวนสุนัขและแนวทั้งประเทศ ตามข้อกำหนดการควบคุมโรคระบาดสัตวิ์ ซึ่งภารกิจการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้ากรมปศุสัตว์ฉีดวัคซีนควบคุมโรคในจุดเกิดโรค ดำเนินการแล้ว 1,208,817 ตัว ส่วน อปท.ดำเนินการแล้ว 6,685,662 ตัว สำหรับยอดผ่าตัดทำหมันปี 2561 จากเป้าหมาย 300,000 ตัว กรมปศุสัตว์ดำเนินการได้ 288,197 ตัว และยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผู้ต้องการให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและจัดสวัสดิภาพสัตว์ (ฉบับที่ …) พ.ศ. … ดังกล่าว ขอให้แสดงความคิดเห็นที่แอพพลิเคชัน DLD 4.0 ที่ดาวน์โหลดและติดตั้งได้ในโทรศัพท์ทุกระบบ หรือทางอีเมล์ info@dld.go.th หรือทางเฟซบุ๊คปศุสัตว์ก้าวหน้า (www.facebook.com/livestocknews).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

ระทึก! ตำรวจไล่ล่า-ยิงยางสกัดกระบะซิ่ง พบไอซ์ซุกในรถ

17 พ.ค. – ระทึก! ตำรวจสายตรวจขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่ากระบะซิ่งหนีชนดะ ต้องยิงยางสกัดจึงสิ้นฤทธิ์ ตรวจค้นพบไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถ เพจเฟสบุ๊กชื่อ วัชรพล สายไหม เพิ่มสิน สุขาภิบาล 5 โพสต์ข้อความระบุว่า “เลี่ยงทางถนนเทพารักษ์ วัชรพล” พร้อมกับคลิปเหตุการณ์ที่มีรถกระบะแต่งซิ่งคันหนึ่งขับเร่งเครื่องจนควันดำเต็มถนน เหมือนพยายามหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในคลิปจะเห็นว่าด้านหน้ารถกระบะคันดังกล่าวมีรถกระบะจอดขวางทางอยู่ 1 คัน และด้านซ้ายของคลิปจะเห็นรถจักรยานยนต์ตำรวจสายตรวจล้มอยู่ อีกทั้งยังได้ยิงเสียงปืน และในจังหวะที่รถกระบะกำลังถอยเพื่อกลับลำหนี มีรถกระบะคันหนึ่งวิ่งเข้ามาชนท้ายอย่างจัง เพื่อปิดทางหนีของรถกระบะคันดังกล่าว และในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุบกระจกรถกระบะ พร้อมนำตัวผู้ก่อเหตุออกมาจากรถได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถกระบะอีซูซุโหลดเตี้ยแต่งซิ่ง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มีรอยเฉี่ยวชนรอบคัน ล้อด้านซ้ายแตกทั้งล้อหน้า ล้อหลัง และยางล้อหน้าด้านซ้ายมีเศษหัวกระสุนติดอยู่ ส่วนคนขับรถกระบะทราบชื่อคือ นายชัยชนะ อายุ 41 ปี ถูกจับกุมพร้อมของกลางไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถกระบะ ด้านพลเมืองที่ช่วยตำรวจสกัดคนร้ายไม่ให้หลบหนี คือนายประหยัด เจ้าของรถกระบะวีโก้สีดำ ได้รับความเสียหายบริเวณตัวรถด้านซ้ายจนถึงท้ายรถ ซึ่งจอดขวางหน้ารถกระบะคันก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะตนเองขับรถอยู่ในซอยพหลโยธิน 50 เห็นรถสายตรวจจักรยานยนต์ขี่ไล่รถกระบะคันเกิดเหตุมาจนมาถึงซอยเทพรักษ์ 23 รถคนร้ายเฉี่ยวชนรถของตนเองเลยขับตามมา ตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาไล่จับอะไรกัน แต่ได้ยินสายตรวจบอกให้ช่วยไล่ จึงช่วยเพราะก็ถูกชนแล้วหนีเหมือนกัน จนมาช่วยสกัดได้ตรงนี้ […]

ตัดทุเรียนโชว์

นายกฯ ลงพื้นที่เมืองจันท์ ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง

จันทบุรี 17 พ.ค.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง ไม่ได้มาตรฐาน ขอช่วยแก้ลดเวลาสินค้าตกค้าง-แก้ปมแรงงาน ด้าน สส.ประชาชน เสนอปัญหา ด้านนายกฯ ลั่นรัฐบาลเร่งอำนวยความสะดวกเอกสารส่งออก-ลดเวลาตรวจหน้าด่าน น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวจิราพร​ สินธุไพร​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์​ นายอิทธิ​ ศิริลัทยากร และนายอัครา​ พรหมเผ่า​ รัฐมนตรีช่วย​ว่าการ​กระทรวง​เกษตรและสหกรณ์​ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ณ สวนรักตะวัน ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังเข้าร่วมชมการไลฟ์ขายทุเรียนของเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer นอกจากนี้ยังมี สส.ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ซึ่งเป็น สส. จากพรรคประชาชน เดินทางมารอนายกรัฐมนตรี เพื่อจะร่วมสะท้อนปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ให้กับนายกรัฐมนตรี โดยมีนางสาวญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี […]

“ชี้จุด-ทำแผน” ฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพหมกสวนปาล์ม

ตรัง 17 พ.ค.- คุมตัว 4 ผู้ต้องหาคดีฆ่าเผานั่งยาง ชี้จุดเกิดเหตุพร้อมทำแผนฯ ที่สวนปาล์มน้ำมัน หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันตามรวบยกทีม เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันสามารถรวบผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ครบทั้ง 4 คนในคดีฆ่าฝังและเผานั่งยาง รวม 4 ศพ ล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งหมดไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนฯ ที่สวนปลามน้ำมัน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนถูกควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณสวนปาล์มน้ำมัน บนเนื้อที่ 170 ไร่ ในตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ประกอบด้วย นายศุภกรณ์ หรือบิน หัวหน้าแก๊ง นายจรณชัย หรือแต้ม นายปิยะศักดิ์ หรือแจ๊ค และนายรพีพันธ์ หรือเถือก ทั้งหมดถูกตั้งหลายข้อหา อาทิ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายฯ, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฯลฯ”โดย มี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ […]

ยักยอกเงินวัด

โกงผ่านวัด… อุดช่องโหว่คอร์รัปชัน

17 พ.ค.- อีกประเด็นสำคัญที่ต้องกวาดล้างปราบปรามอย่างจริงจัง คือ การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรัง เกิดขึ้นแทบทุกวงการ ไม่เว้นวัด หลายปีที่ผ่านมา คดี “เงินทอนวัด” หรือการทุจริตเงินอุดหนุนวัด สะเทือนวงการสงฆ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ จะไปพูดคุยเรื่องนี้ กับ ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) .-สำนักข่าวไทย