ก.พลังงาน 11 ต.ค.- กบง.พยายามตรึงดีเซล 30 บาท แต่หากน้ำมันพุ่งขึ้นอีก เตรียมแผน 2 อาจขยับราคา เสนอลดภาษี ล่าสุดอนุมัติเพิ่มเงินอุดหนุนจาก 1 บาทเป็น 1.50 บาท/ลิตร หากชดเชยเต็มเพดาน พร้อมไม่ขึ้นราคาแอลพีจี คาดกองทุนน้ำมันหมดเงิน มี.ค.62
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันนี้ (11 ต.ค.) พิจารณามาตรการรองรับภาวะระดับราคาน้ำมันตลาดโลกผันผวนในระดับสูง โดยเฉพาะในช่วงสิ้นปี เพื่อลดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน ผ่านกลไกการบริหารเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ในขณะนี้วงเงินประมาณ 24,592 ล้านบาท เพื่อดูแลราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยกำหนดมาตรการไว้ 2 แนวทาง ได้แก่
1.กรณีราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ประมาณ 85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือกรอบ 82.50-87.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะใช้เงินกองทุนน้ำมันฯชดเชยดีเซลจากปัจจุบันไม่เกิน 1 บาทต่อลิตรเป็นระดับไม่เกิน 1.50 บาทต่อลิตร ซึ่งจะส่งผลให้เงินกองทุนน้ำมันฯ สามารถดูแลราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร รวมถึงการดูแลราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ที่ตรึงไว้ระดับ 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม(กก.) จนถึงเดือนมีนาคม 2562
2. กรณีฉุกเฉินที่อาจเกิดวิกฤติระดับราคาน้ำมันแพงในระยะสั้นๆ ที่อาจเกินระดับ 90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยจะใช้มาตรการผสมผสานระหว่างเพิ่มเพดานการชดเชย การเพิ่มราคาขายปลีกดีเซลให้เกิน 30 บาทต่อลิตร และหรือเสนอกระทรวงการคลังปรับลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลงมา
“ส่วนจะใช้มาตรการใด ต้องดูสถานการณ์ราคาน้ำมัน โดยเฉพาะช่วงก่อนและหลังวันที่ 4 พ.ย.ที่มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่านจะเริ่มมีผลบังคับ ว่าราคาจะเป็นอย่างไร โดยแนวทางการชดเชย, การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันและการเพิ่มราคาขายปลีก จะขอประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะนี้หลังจากที่รัสเซียและซาอุดีอาระเบีย ระบุจะเพิ่มกำลังผลิตก็ทำให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลดลง” นายศิริ กล่าว. -สำนักข่าวไทย