รัฐสภา 13 ก.ย. – พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ชี้การเสียชีวิตของ “ธวัชชัย” เป็นโอกาสเปลี่ยนแปลงงานระบบนิติเวชของไทย ที่ต้องมีหน่วยงานดูแลผู้เสียชีวิตที่อยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ ย้ำกระบวนการชันสูตรศพ สิทธิผู้ตาย และ ญาติต้องได้รับรู้
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงยุติธรรม แต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของ นายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาท้ายเมือง ที่ผูกคอเสียชีวิตภายในห้องควบคุมตัวของดีเอสไอ ว่า ในกรณีนี้ หากพอใจในผลสรุปก็จบ แต่ถ้าผลที่ออกมาเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ กระทรวงยุติธรรมก็จะเดินต่อ หากหลังแพทย์ชันสูตรแล้วญาติติดใจ อาจจะมีการผ่าพิสูจน์เป็นครั้งที่ 2 โดยแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แต่ควรทราบผลจากการผ่าครั้งที่ 1 ก่อน แล้วหากทราบข้อสงสัยจากครั้งที่ 1 ก็ต้องดูว่าผ่าครั้งที่2 จะตอบได้หรือไม่ เพราะการผ่าครั้ง 2 ต่างจากครั้งที่ 1
“การผ่าครั้งที่ 2 ต่างจากครั้งที่ 1 อยู่แล้ว เช่นหากผลออกมาว่าตับแตกเลือดออก ก็เป็นประเด็นที่ไม่สามารถตอบโจทย์ ในการผ่าครั้งที่ 2 ได้ เพราะผ่าและเอาบางส่วนไปแล้ว แต่หากญาติติดใจเรื่องการแขวนคอ กรณีนี้อยู่ที่โครงสร้างหลักในร่างกาย การผ่าจะช่วยได้ซึ่งแล้วแต่กรณี” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ในกรณีที่เกิดขึ้นนี้ไม่น่ายากที่จะสืบจากศพ และจะทำให้เห็นสภาพปัญหาของงานนิติเวชศาสตร์ว่า ไม่มีระบบรองรับเรื่องการตายในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ ที่ควรมีหน่วยงานเข้ามาดูแล ซึ่งไม่น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจหรือดีเอสไอ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เป็นโอกาสที่ดีที่จะเปลี่ยนแปลงระบบในประเทศไทย เพราะที่ผ่านมาประชาชนไม่เคยมีสิทธิร้องขอในสิ่งเหล่านี้ แต่นี่เป็นการตั้งหน่วยงานของรัฐที่ต้องการทราบข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันย้ำว่ากระบวนการในการชันสูตรศพ สิทธิผู้ตายและ ญาติต้องได้รับรู้ แต่ครั้งนี้ไม่ได้บอกให้ญาติรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงเป็นประเด็นโต้เถียง และหากดำเนินการเร็วจะทำให้พยานหลักฐานยังอยู่
เมื่อถามว่าคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะลดความเคลือบแคลงสงสัยในสังคมได้หรือไม่พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะปล่อยทอดเวลานานไป อาจทำให้เกิดความสงสัยในผลสรุปที่ออกมา และคำถามเกิดขึ้นมากมายจึงตอบไม่ได้ว่าทุกคนจะยอมรับได้หรือไม่ แต่การตั้งกรรมการสอบดีกว่าไม่ได้ดำเนินการอะไร ซึ่งคณะกรรมการจะต้องดำเนินการให้เสร็จตามกรอบเวลา 15 วัน .-1.-233 (222)
.-สำนักข่าวไทย