กกต. 13 ก.ย.-กกต.ยังไม่ส่งกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ให้ กรธ. คาดปรับแก้แล้วส่งได้ 16 ก.ย.นี้ “สมชัย” เสนอ 4 ประเด็นปฏิรูปเลือกตั้ง ผุดไอเดียเพิ่มค่าสมัคร 1 หมื่น ก่อนคืนให้ครึ่งหนึ่งหลังเลือกตั้งหากได้คะแนนถึงร้อยละ 5 “ใบเหลือง-ส้ม-แดง” ยังเป็นอำนาจ กกต. ส่วน “ใบดำ” เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แย้มคอทองแดงมีเฮ ปิดหีบปั๊บชนแก้วดื่มเหล้าได้ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า เวลา 15.00 น. วันนี้ (13 ก.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง แถลงภายหลังการประชุม กกต.ถึงความคืบหน้าในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ว่า ในวันนี้คงไม่สามารถส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้ เนื่องจากมีสาระสำคัญหลายเรื่องที่ต้องนำกลับไปปรับแก้ คาดว่าจะเสร็จภายในวันที่ 15 กันยายนนี้ และวันที่ 16 กันยายน ประธาน กกต.จะลงนามเพื่อส่งให้ กรธ.พิจารณา จากนั้นจะแถลงให้ทราบอีกครั้ง
นายสมชัย กล่าวถึงกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ว่า ได้เสนอประเด็น 4 ปฏิรูปการเลือกตั้ง ซึ่งที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบและจะนำมาบรรจุในร่างกฎหมาย เชื่อว่าข้อเสนอดังกล่าวจะทำให้การจัดเลือกตั้ง ส.ส.มีคุณภาพ คือ 1.ปฏิรูปกลไกการรับสมัคร ในอดีตผู้สมัครบางพรรคไม่ประสงค์เป็น ส.ส. ไม่หาเสียง แต่ใช้โอกาสในการสมัครเพื่อแสดงตัวต่อสาธารณะ ทำให้เป็นปัญหามีผู้สมัครจำนวนมาก ได้คะแนนหลักร้อย หลักพัน จึงจะมีการเพิ่มเงินค่าสมัคร ทั้งผู้สมัคร ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ เพิ่มเป็น 10,000 บาท จากเดิม 5,000 บาท กรณีผู้สมัครมีคะแนนเกินร้อยละ 5 จะคืนครึ่งหนึ่ง คือ 5,000 บาท ดังนั้นผู้สมัครจะได้เงินคืนต้องได้คะแนน 4-5 พันคะแนนขึ้นไป รวมทั้งจะเพิ่มช่องทางให้มีการรับสมัครทางอินเทอร์เน็ต แก้ปัญหาในอดีตที่มีการขัดขวางการเลือกตั้ง ถือเป็นการเปิดให้มีการสมัคร 2 ช่องทางควบคู่กันกับวิธีปกติ แต่การสมัครทางอินเทอร์เน็ตจะมีเวลามากกว่า เมื่อรับสมัครเสร็จแล้วจึงจะมาจับสลากหมายเลข จะเป็นหมายเลขเดียวกันทั้งประเทศ
นายสมชัย กล่าวอีกว่า 2.การปฏิรูปกลไกการหาเสียง จะกำหนดขนาด จำนวนป้ายหาเสียง สถานที่ติดป้าย เบื้องต้นขนาดป้ายหาเสียงกำหนดให้มีขนาด 60×60 ซม. ให้ทำบอร์ดได้ 200 จุดใน 1 เขตเลือกตั้ง จะมีป้ายหาเสียงทั้งหมด 7 หมื่นจุด น้อยกว่าจำนวนหน่วยออกเสียง จะทำให้เป็นการเมืองต้นทุนต่ำ และกำหนดให้ กกต.ส่งรายละเอียดผู้สมัครถึงประชาชนด้วย ลดต้นทุนผู้สมัครแต่ละคน นอกจากนี้พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของเขตเลือกตั้งทั้งหมด หรือ 300 เขต ถ้าส่ง 175 เขตขึ้นไป ผู้ถูกเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคนั้นต้องดีเบตนโยบายประมาณ 5-6 ครั้งที่จัดขึ้นโดยสถานีโทรทัศน์ ขณะที่เรื่องการหาเสียงทางอินเทอร์เน็ตเป็นประเด็นใหญ่ที่สำคัญในการหาเสียง จะจำกัดการหาเสียงทางอินเทอร์เน็ตต้องนิ่งใน 7 วันก่อนการเลือกตั้ง ข้อมูลต้องไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อป้องกันมีการโจมตีฝ่ายตรงข้าม หรือปล่อยข่าวของผู้สมัครบางพรรค
นายสมชัย กล่าวด้วยว่า 3.การปฏิรูปการลงคะแนน เพิ่มช่องทางลงคะแนน โดยจัดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้ามี 2 วัน ขยายเวลาถึง 18.00 น.ของวันเลือกตั้งล่วงหน้า ส่วนวันเลือกตั้งทั่วไปขยายเวลาถึง 16.00 น. และ 4.การปฏิรูปการประกาศผล จะมี 3 ประเภท ได้แก่ ใบเหลือง คือ การสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ หากพบว่ามีการทุจริตการเลือกตั้ง แต่ไม่เชื่อมโยงผู้สมัคร หรือไม่เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนใบส้ม คือ เกิดกรณีความผิดก่อนหรือประกาศผลการเลือกตั้งจนเป็นเหตุให้ต้องเอาคนผิดออกจากการเลือกตั้งเป็นเวลา 1 ปี เป็นอำนาจ กกต.พิจารณา ส่วนการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปีหรือใบแดง เป็นอำนาจของศาล ส่วนใบดำไม่อยู่ในอำนาจ กกต.และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เพราะโทษดังกล่าวถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแล้ว
นายสมชัย กล่าวว่า สำหรับเรื่องจำหน่ายจ่ายแจกสุรา ได้เสนอให้ห้ามจำหน่ายจ่ายแจกสุราในระยะสั้นลง จากเวลา 18.00 น.ก่อนวันเลือกตั้ง ถึง 24.00น.ของวันเลือกตั้ง เป็น 18.00น.ของวันเลือกตั้ง เพราะเชื่อว่าหลังปิดหีบ 2 ชั่วโมง การนับคะแนนน่าจะเสร็จสิ้นแล้วและไม่เกี่ยวข้องข้องกับประชาชน.-สำนักข่าวไทย