รัฐสภา 5 ต.ค.- สนช.พิจารณารับหลักการวาระ 1 ร่างพ.ร.บ.เกี่ยวกับระเบียบราชการ 5 ฉบับ เพื่อปรับแก้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการทำผิดทางวินัย กรณีที่ออกจากราชการไปแล้วให้เท่าเทียมและลดความเหลื่อมระหว่างกัน
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ จำนวน 5 ฉบับ ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน ร่างพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการรัฐสภา ร่างพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และร่างพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจง ว่า ร่างกฎหมายทั้ง 5 ฉบับ มีหลักการทางเดียวกัน ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบของข้าราชการแต่ละประเภทเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการทำผิดทางวินัย กรณีที่ออกจากราชการไปแล้ว เนื่องจากปัจจุบันการดำเนินการทางวินัย ทั้งการไต่สวน การสอบสวนข้อเท็จจริง หรือการดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัย รวมถึงการลงโทษตามผลการการสอบสวนข้าราชการแต่ละประเภทเหล่านี้ ยังมีความเหลื่อมล้ำกันอยู่ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องปรับให้หลักเกณฑ์เงื่อนไขให้สอดคล้องกันกับกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยกำหนดหลักเกณฑ์การสอบสวนข้าราชการทั้ง 5 ประเภทนี้ ในกรณีที่มีการกล่าวหาและแม้ออกจากราชการแล้วให้ดำเนินการสอบสวนและลงโทษให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิก สนช.ต่างเห็นด้วยกับหลักการและหลักเกณฑ์ของร่างกฎหมายทั้ง 5 ฉบับ เนื่องจากช่วยสร้างมาตรฐาน และระบบราชการทั้งหมดเพื่อให้สามารถดำเนินการเอาผิดและลงโทษทางวินัยได้สอดคล้องกัน แต่ตั้งข้อสังเกตและสอบถามถึงรายละเอียดของร่างกฎหมายที่ต้องการให้การดำเนินการครอบคลุมไปยังเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย และข้าราชการส่วนท้องถิ่นด้วยหรือไม่ รวมถึงรายละเอียดที่ว่าเมื่อถูกกล่าวหาแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาจะได้รับการเยียวยาอย่างไร หากไม่ได้กระทำความผิดจริง นอกจากนี้ระยะเวลาการดำเนินการที่ถูกกำหนดไว้ภายใน 3 ปี จะล่าช้าเกินไปจนหน่วยงานรัฐจะได้รับความเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังอภิปรายอย่างกว้างขวางแล้ว ที่ประชุมได้ลงมติวาระ 1 ร่างกฎหมายทั้ง 5 ฉบับ เป็นรายฉบับ โดยได้ให้ความเห็นชอบรับหลักการร่างกฎหมายทั้ง 5 ฉบับ พร้อมกำหนดตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมา 1 คณะ จำนวน 25 คน เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายทั้ง 5 ฉบับ กำหนดแปรญัติภายใน 7 วัน มีกรอบเวลาดำเนินงาน 60 วัน.-สำนักข่าวไทย

