จับตาปัญหาหนี้จีน จุดเสี่ยงวิกฤติเศรษฐกิจรอบใหม่

กรุงเทพ 5 ต.ค. – ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจธนาคารทหารไทยมองวิกฤติเศรษฐกิจในอนาคตอาจเกิดจากปัญหาหนี้ในจีน แม้จะไม่รุนแรงเท่าวิกฤติซับไพรม์ แต่อาจทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำรุนแรงขึ้น อีกทั้งเครื่องมือในการรับมือมีจำกัดเมื่อเทียบกับวิกฤติครั้งก่อน ผู้ประกอบการและนักลงทุนจึงควรจะเตรียมรับมือกับความเสี่ยงที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต


หลังจากวิกฤติการเงินโลกที่ทำให้บริษัท เลห์แมน บราเธอร์ วาณิชธนกิจระดับโลก ล้มละลายผ่านไปครบ 10 ปีในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้มีหลายฝ่ายเริ่มออกมาพูดถึงวิกฤติที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจชื่อดังที่รายงานว่าตัวชี้วัดเกี่ยวกับสัญญาณการเกิดวิกฤติเริ่มส่งสัญญาณแล้ว

 แม้ช่วงเวลาและปัจจัยที่จะเป็นต้นเหตุของการเกิดวิกฤติในคราวนี้จะชี้ชัดได้ยาก แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในโลกกำลังเผชิญปัจจัยที่น่ากังวลก็คือเรื่องหนี้ที่สูง ที่มีผลมาจากการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ทั้งการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำเป็นเวลานานและการอัดฉีดสภาพคล่องผ่านโปรแกรม QE ทำให้มีการก่อหนี้สูงในแทบจะทุกประเทศ โดยรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)  เกี่ยวกับเสถียรภาพของการเงินโลก พบว่าปี 2559 สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีทั่วโลกอยู่ที่ร้อยละ 260 แล้ว โดยหนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้รัฐบาลและบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ซึ่งแนวโน้มดอกเบี้ยโลกขาขึ้นอาจจะกระทบความสามารถในการชำระหนี้ได้ โดยเฉพาะหนี้ของบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน


และที่น่ากังวลไปกว่านั้นคือหนี้ของบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้นมาจากบริษัทจีน โดยตั้งแต่ปี 2549 ถึงปี 2559 บริษัทจีนมีหนี้เพิ่มขึ้นกว่า 14.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหลังจากรัฐบาลจีนพยายามลดการก่อหนี้ ทำให้มีการผิดนัดชำระเพิ่มขึ้น ทำให้ภาพรวมของตลาดสินเชื่อจีนดูแย่ลง นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบจากจากสงครามทางการค้ากับสหรัฐที่บริษัทจีนจะต้องรับมืออีก ปัญหาหนี้ในจีนจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ค่อนข้างน่ากังวล แต่ความรุนแรงของวิกฤติครั้งนี้  ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจธนาคารทหารไทยคาดว่าจะไม่รุนแรงเหมือนวิกฤติปี 2551

 

เนื่องจากบทเรียนจากวิกฤติครั้งก่อนทำให้สถาบันการเงินมีการเตรียมการรับมือความเสี่ยงที่ดีขึ้น อีกทั้งผู้กำกับดูแลก็มีกฎเกณฑ์ข้อบังคับที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของโกลด์แมน แซคส์ที่มองว่าวิกฤติครั้งนี้จะเป็นเพียงการชะลอตัวของราคาสินทรัพย์เท่านั้น แต่จะไม่ถึงขั้นราคาสินทรัพย์หดตัวรุนแรงเหมือนวิกฤติคราวก่อน


อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากการชะลอของเศรษฐกิจครั้งนี้ แม้ไม่รุนแรง แต่จะทำให้ช่องว่างทางความมั่งคั่งยิ่งกว้างขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ประเทศไทยที่มีปัญหาความเหลื่อมล้ำ แต่อีกหลายประเทศทั่วโลกก็เจอปัญหาเหล่านี้เช่นกัน โดยจากรายงานความมั่งคั่งของโลกที่จัดทำโดย Credit Suisse พบว่า สินทรัพย์เกือบครึ่งของโลกถูกถือโดยประชากรเพียงร้อยละ 1 ซึ่งปัญหาความเหลื่อมล้ำที่รุนแรงขึ้นนี้ก็อาจทำให้เกิดปัญหาทางสังคมอื่น ๆ ตามมา

นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายการเงินที่มีไม่มากเท่ากับวิกฤติครั้งก่อน หากพิจารณาช่วงที่เกิดวิกฤติปี2551 ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยจาก ร้อยละ 5.25 เหลือ 0.25 ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจากร้อยละ 5 เหลือ 1.25 เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ปัจจุบันดอกเบี้ยเฟดคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2.5 และดอกเบี้ยนโยบายไทยที่ร้อยละ 1.75 ณ สิ้นปีนี้ ดังนั้น แม้ผลกระทบจากวิกฤติคราวนี้จะไม่ได้รุนแรงเท่าครั้งก่อน แต่เครื่องมือที่ใช้รับมือผลกระทบดังกล่าวก็จำกัดด้วยเช่นกัน

สำหรับประเทศไทยแม้จะไม่เห็นสัญญาณของการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหากเกิดวิกฤติกับประเทศอื่น ประเทศไทยก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน ดังนั้น ทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุนควรจะเตรียมรับมือกับความเสี่ยงที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่