กรุงเทพฯ 4 ต.ค.-มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเผยจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นและอีกหลายปัจจัยเริ่มส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนทุกภูมิภาค
ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนกันยายน 2561 ลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน
อยู่ที่ระดับ 82.3 ส่วนเทศกาลกินเจปีนี้คาดว่าจะมีเงินสะพัด 45,937 ล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกันยายน 2561 ปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ
4 เดือน นับตั้งแต่มิถุนายน 2561 มาอยู่ที่ระดับ 82.3 เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่า
ราคาน้ำมันสูงขึ้น และราคาสินค้าเกษตรที่ยังทรงตัวในระดับต่ำโดยเฉพาะข้าว
และยางพารา รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงจนถึงสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่เริ่มรุนแรงขึ้น
ส่งผลให้กำลังซื้อชะลอตัวลง ซึ่งค่าดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติที่ระดับ 100
สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภค
ยังมีความกังวลถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวขึ้นไม่มากนัก
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง คือ
จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มลดลงมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงปัจจุบันและยังมีสัญญาณลดลงต่อเนื่อง
รวมทั้งราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้น
จนทำให้หลายฝ่ายประเมินว่ายังมีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีก ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายของประชาชนโดยเฉพาะในต่างจังหวัดทรงตัว
รวมทั้งปัญหาจากสงครามการค้า ที่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะอาจจะส่งผลต่อบรรยากาศการจับจ่ายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีให้ไม่โดดเด่น
แต่ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ยังประเมินเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ไว้กรอบเดิมที่ร้อยละ
4.5- 4.6 เนื่องจากเชื่อว่า ผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะคลายตัวลงกลับเข้ามายังไทยช่วงเดือนพฤศจิกายน
และกิจกรรมทางการเมืองที่มีมากขึ้น จะยังช่วยพยุงเศรษฐกิจไว้ได้
ส่วนพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงกินเจปีนี้ คาดว่า
จะมีเงินสะพัด 45,937 ล้านบาท
ขยายตัวร้อยละ 1.9 ขยายตัวต่ำสุดตั้งแต่สำรวจมาในรอบ 11 ปี
สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ประชาชนระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย
มีประชาชน ร้อยละ 33.8 ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่ตั้งใจกินเจ
เนื่องจากต้องการทำบุญและเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่ในหลวง รัชการที่ 9
ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งใจจะกินตลอดเทศกาลเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 -17 ตุลาคม รวมทั้งประชาชน
จะใช้จ่ายในการซื้อสินค้าไว้เท่าเดิม และคาดว่าราคาอาหาร
และวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เฉลี่ยจะเท่ากับปี 2560 จึงเชื่อว่า
ความคึกคักของเทศกาลกินเจปีนี้ จะไม่เปลี่ยนแปลงจากปีก่อนหน้า
เพราะจะยังคงใช้จ่ายกับค่าอาหาร ทำบุญและค่าเดินทางไปทำบุญต่างจังหวัด เท่าเดิมตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่คล่องตัวและราคาสินค้าแพงขึ้น
.-สำนักข่าวไทย