ทปอ. รีวิว TCAS62

ทปอ.2 ต.ค.–ทปอ.แนะแนว TCAS62 แต่ละรอบเหมาะกับใคร รู้ก่อน เตรียมตัวก่อน ช่วยให้เหนื่อยน้อยลง


นายพีระพงศ์ ตริยเจริญ คณะกรรมการพัฒนาระบบ TCAS ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ต้องรู้เกี่ยวกับ TCAS 62 คือการสมัครทั้ง 5 รอบที่เปิดรับสมัคร เป็นเพียงทางเลือกให้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่ในทางปฏิบัติอาจเลือกเพียงรอบเดียวที่เหมาะกับตนเอง ทุ่มเทรอบนั้นและทำอย่างสุดความสามารถ ก็มีโอกาสคว้าที่นั่งในสาขา คณะ สถาบันในดวงใจไปมากกว่าครึ่ง 


เริ่มต้น TCAS รอบที่ 1หรือรอบยื่นแฟ้มสะสมผลงาน รอบนี้เหมาะกับผู้มีผลงาน กิจกรรม ความสามารถพิเศษที่สอดคล้องกับสาขาวิชาที่ต้องการเรียน ผู้สมัครนำผลงานไปยื่นกับสาขาวิชา สถาบันที่สนใจ เช่น เก่งดนตรีก็เอาผลงาน ชื่อรางวัลที่เคยได้ มาใส่ในแฟ้มสะสมผลงานโดยไม่ใช้คะแนน โดยจะพิจารณาจากหลักฐาน เช่น เกียรติบัตร รูปภาพประกวด หรือขณะเรียนทำโครงงานอะไรที่คิดว่าภูมิใจและเกี่ยวข้องกับสาขาที่สมัครก็สามารถใส่ประกอบมาได้ โดยมีพื้นที่ให้ 10 หน้ากระดาษ A4 ซึ่งสถาบันที่ส่งแฟ้มไปจะคัดเลือกจากแฟ้มใส่ผลงานที่มีความโดดเด่น จากความสนใจที่สอดคล้องกับวิชาที่จะเรียน (Pre-Screening) เมื่อได้บุคคลที่น่าสนใจแล้วจะเรียกไปสอบสัมภาษณ์ ซึ่งจะนำแฟ้มสะสมผลงานมาพิจารณาว่าใช่ตัวตนผู้สมัครจริงหรือไม่ เรียกได้ว่า TCAS รอบที่1 วัดกันที่อินเนอร์ คือดูตัวตน โปรไฟล์และความสนใจเป็นสำคัญ โดยไม่ต้องใช้คะแนนสอบใดๆยื่นเลย


TCAS รอบ2มาจากโครงการต่างๆ ที่เปิดรับสมัคร นักเรียนที่สนใจสามารถสอบถามได้จากโรงเรียนตนเองว่าทำความร่วมมือไว้กับโครงการใดบ้างเพื่อเช็คสิทธิ์ในการสมัครสอบ สิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจรอบนี้คือรายละเอียด หลักเกณฑ์ เงื่อนไขของโครงการต่างๆเพราะบางโครงการจะมาพร้อมทุน การศึกษา ซึ่งอาจระบุเงื่อนไขว่าต้องรักษามาตรฐานเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำจึงจะได้ทุนเรียนจนจบ และบางโครงการอาจพ่วงสัญญาผูกพันไปจนถึงการทำงานในองค์กรที่ให้การสนับสนุนทุนดังกล่าวในระยะเวลาที่กำหนดอีกด้วย โดยสรุป TCAS รอบ2 เหมาะกับผู้มีผลการเรียนดี วิชาการเด่น มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่รับสมัครตามที่โครงการกำหนด อาทิ โครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) โครงการผลิตแพทย์เพิ่มแห่งประเทศไทย โครงการสู่ความเป็นเลิศด้านภาษาและวรรณคดีไทย เป็นต้น

รอบที่ 3 รอบรับตรงร่วมกัน เตรียมคะแนนให้พร้อมก่อนยื่น รอบนี้เป็นรอบที่ต้องใช้คะแนน เพื่อยื่นสมัครและสามารถจัดอันดับได้ถึง 6 อันดับ ซึ่งปีนี้ จุดที่แตกต่างจาก TCAS 61 คือสาขาของ กสพท.จะเป็น1ในตัวเลือกของการสมัคร TCAS รอบที่3(รับตรงร่วมกัน) หมายถึงผู้สมัครสามารถเลือกสาขาใด สถาบันใดที่สนใจก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในกลุ่มของ กสพท. ทั้ง 6 อันดับเลยก็ได้ โดยยังคงเกณฑ์การคัดเลือกเดิมไว้บางส่วน คือใช้คะแนนจากคะแนน 9 วิชาสามัญ O-NET GAT/PAT และอาจใช้ GPAX ร่วมด้วย ในรอบนี้มีคำแนะนำว่า ให้เรียงสาขา คณะ สถาบันที่อยากเรียนมากที่สุดเอาไว้อันดับที่1 และสาขาอื่นๆ เรียงลงมาตามลำดับ และสิ่งที่ต้องจำให้ดี คือต้องวางแผนให้รอบคอบก่อนการสมัคร ควรหาตัวเองให้เจอว่าอยากเรียนอะไร ที่ไหนมากที่สุด ให้พิจารณาจากคะแนนและความถนัดของตนเป็นสำคัญเพราะปีนี้ถึงบางคนอาจมีคะแนนสูงมีโอกาสเลือกได้หลายอันดับ แต่หลักเกณฑ์ปีนี้กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า จะได้สิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์เพื่อไปยืนยันสิทธิ์เพียง 1 อันดับเท่านั้น

ขณะที่ Admissions แบบเดิมแต่เพิ่มเติมคือหาตัวเองให้เจอ ในรอบนี้ ใช้เกรดเฉลี่ยสะสม(GPAX)คะแนน 9วิชาสามัญ O-NET GAT/PAT เกือบจะเหมือนกันกับรอบ 3 แต่ในรอบที่ 4(Admissions)ทปอ.จะแบ่งกลุ่มสาขา วิชาเป็นทั้งหมด 10 กลุ่มในแต่ละกลุ่มจะมีสัดส่วนการใช้คะแนนไม่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถเรียงอันดับได้สูงสุด 4 อันดับ (ได้สิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์เพื่อไปยืนยันสิทธิ์เพียง1 อันดับเท่านั้น) ที่สำคัญการสมัครในรอบที่ 4 นี้ใช้คะแนน GPAX ในทุกกลุ่มสาขาวิชาสูงถึงร้อยละ 20 จึงเป็นรอบที่เหมาะกับผู้เตรียมตัวมาดี ตั้งใจเรียนในห้องเรียนตั้งแต่เรียนชั้น ม.4 ทำเกรดเฉลี่ยสะสมได้ดี อาจทำให้เหนื่อยน้อยลงในรอบนี้

และ‘อิสระเต็มที่ แต่มีสิทธิ์เลือกแค่หนึ่งเดียว’ มาถึงรอบนี้อาจหมายถึงรอบเก็บตก อาจหมายถึงบางคนที่ติดในรอบแรก ๆ ไปแล้ว แต่อยากลองเปิดโอกาสให้ตัวเองจนถึงรอบสุดท้าย(รับตรงอิสระ)หรือสนใจเฉพาะสาขาที่เปิดรับในรอบนี้เท่านั้น และอาจหมายถึงผู้พลาดโอกาสมาตลอดทั้ง 4 รอบเลยก็ได้ ซึ่งในรอบนี้สามารถเลือกสมัครในสาขาที่เปิดรับอย่างอิสระ ใน ช่วงเวลาที่กำหนด จะสมัครกี่ที่ก็ได้ เปิดโอกาสให้ได้เลือกกันแบบเต็มที่ในรอบสุดท้ายนี้ แต่การรับสมัครทั้งหมดจะอยู่ภายใต้กรอบการยืนยันสิทธิ์ผ่านส่วนกลาง (ทปอ.)เหมือนกับทุกรอบที่ผ่านมา ดังนั้น แม้ว่าจะไปสมัครหลายที่ และติดหลายที่เช่นกัน แต่การยืนยันสิทธิ์ จะทำให้เพียงที่เดียวเท่านั้น และอยู่ในกรอบระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้เท่านั้น .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]