ตร.มุ่งปมขัดแย้งในครอบครัวยิงพ่อ-ลูกเจ็บและเสียชีวิตใน อ.กะพ้อ ปัตตานี

กรุงเทพฯ 30 ก.ย.- เหตุยิงพ่อ- ลูกบาดเจ็บและเสียชีวิต ในพื้นที่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ตำรวจมุ่งปมขัดแย้งในครอบครัว แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้ง


พ.ต.อ.กฤษณะ  พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงราษฏรมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย  ในพื้นที่ สภ.กะพ้อ  จว.ปัตตานี ว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 18.50 น. วันที่  ๒๙ กันยายน  ๒๕๖๑  คนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวนใช้อาวุธปืนยิงราษฏรได้รับบาดเจ็บ จำนวน ๒ ราย  และพลเมืองดีนำตัวส่งโรงพยาบาลกะพ้อ  และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา   เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงเดินทางไปตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตคือนายมะสกรี  สาแม  อายุ ๔๖ ปี  ราษฎร ต.ตะโละดือรามัน อ.กะพ้อ จว.ปัตตานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด  มีบาดแผลบริเวณร่างกายจำนวนหลายแผล   และพบนางสาวนาเดีย  โกะเล๊าะ อายุ ๑๕ ปี  ราษฏร  ต.ลุโบะสาวอ อ.บาเจาะ จว.นราธิวาส  มีบาดแผลบริเวณร่างกายจำนวน 2 แผล  ได้รับบาดเจ็บ  

โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายอยู่ในบริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ  ได้มีคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตาย  และนางสาวนาเดียฯ  จำนวนหลายนัด พนักงานสอบสวน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้ที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้น พร้อมให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาเบาะแสหรือข้อมูลของคนที่ก่อเหตุและตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ใช้หลบหนี และร่วมกับแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต


จากการสืบสวนในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากปัญหาความขัดแย้งในครอบครัว ซึ่งผู้ตายมักมีการทะเลาะกับหลานชายซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันบ่อยครั้งจากการไปว่ากล่าวตักเตือนเกี่ยวกับพฤติกรรมส่วนตัว   ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการติดตามตัวมาทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป   

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า   คดีนี้มีข้อสันนิษฐานในเบื้องต้นคาดว่าเป็นปัญหาความขัดแย้งในครอบครัว  แต่ก็ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้งไป   ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง  รอผลการตรวจวัตถุพยานจากพิสูจน์หลักฐาน  และผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์    และในส่วนของชุดสืบสวนก็จะเร่งติดตามตัวผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องมาทำการสืบสวนขยายผลและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

พร้อมกันนี้ ตนได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.  รับทราบแล้ว ท่านได้แสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิต ได้มีข้อสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดการจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้โดยเร็ว รวมทั้งให้เร่งสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับ โดยเฉพาะผู้มีคดีค้างเก่า เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยว นักลงทุนในพื้นที่ อีกทั้งยังได้กำชับให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันอาชญากรรม ในการเพิ่มความเข้มงวดการตรวจตราสถานที่ต่างๆ เช่น แหล่งชุมชน สถานที่ราชการ สถานที่ท่องเที่ยว หรือ สถานที่สำคัญ ที่อาจเป็นเป้าหมาย เพื่อป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะแบบนี้ ตลอดจนเพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในการตรวจค้นรถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย ตามเส้นทางหลักและเส้นทางรอง จัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ และชุมชน ทั้งนี้ ก็ขอความร่วมมือประชาชนในการช่วยเป็นหูเป็นตา เฝ้าสังเกตบุคคล วัตถุต้องสงสัย หากพบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ