กรุงเทพฯ 29 ก.ย.-“ณัฐวุฒิ” ชี้ รัฐบาลเฉพาะกาลไม่เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย อาจถูกมองเป็นเจตนาล้มเลือกตั้ง ไร้หลักประกันว่าจะแก้ปัญหาได้
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ตนมีจุดร่วมที่ชัดเจนกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี คือประเทศไทยต้องปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า พล.อ.ชวลิต มีความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง ไม่สงสัยต่อความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ว่ามีคุณค่าควรรับฟัง การชี้ให้เห็นความทุกข์ยากของประชาชน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจเสียสละ เมื่อตัดสินใจเป็นผู้เล่น ก็ไม่ควรถืออำนาจเบ็ดเสร็จเหนือกรรมการ เป็นปัญหาพื้นฐาน ซึ่งหลายฝ่ายเห็นตรงกันและเรียกร้องต่างกรรมต่างวาระมาตลอด ส่วนข้อเสนอให้มีรัฐบาลเฉพาะกาลนั้น เคยได้ยินผ่านสื่อมาเป็นระยะ แต่ไม่ทราบรายละเอียดที่มาที่ไป เพราะไม่เคยหารือกันเรื่องนี้
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวเชื่อมั่นการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการประชาธิปไตย สนับสนุนอย่างที่สุดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 แม้กติกาและสิ่งแวดล้อมทางอำนาจขาดความชอบธรรม เพราะผู้มีอำนาจไม่ลาออกแน่นอน แผนสืบทอดอำนาจก็ปรากฏชัด แต่ต้องยึดกุมสถานการณ์ที่อำนาจกลับมาสู่มือประชาชนไว้ให้ได้ แล้วเดินหน้าไปในโลกของความเป็นจริง ถ้าทุกฝ่ายจริงใจแก้ปัญหาชาติ เคารพการตัดสินใจของประชาชน ไม่มักมากในอำนาจหรือผลประโยชน์ทางการเมือง ที่สำคัญ คือ ประชาชนต้องตัดสินใจไปในทิศทางเดียวกัน ปฏิเสธวิถีเผด็จการ สนับสนุนแนวทางประชาธิปไตย เชื่อว่าบ้านเมืองไปต่อได้
“การมีรัฐบาลเฉพาะกาล นอกจากไม่เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย และอาจถูกมองเป็นเจตนาล้มการเลือกตั้งแล้ว ยังไม่มีหลักประกันว่าจะแก้ปัญหาได้ รัฐบาลชุดนี้ใช้เวลาเกือบ 5 ปี บอกว่ารวบรวมคนดี คนรักชาติไว้เต็มลำ ก็ยังเป็นแค่เรือแป๊ะ ไม่เป็นสับปะรด จึงเชื่อว่าการฟังเสียงประชาชนเป็นสิ่งที่ใกล้ความจริงมากกว่า” นายณัฐวุฒิ กล่าว.-237 (225) สำนักข่าวไทย