โรงแรมเซ็นทารา ศูนย์ราชการฯ 28 ก.ย.-กกต.ชี้แจงแนวทางปฏิบัติให้พรรคการเมือง เตือนระวังเรื่องการหาเสียง
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จัดการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการแก่พรรคการเมืองและผู้ขอแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง เพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง โดยพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. กล่าวว่า กกต.กำลังยกร่างระเบียบการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิคส์ เพื่อให้มีเสรีภาพในการหาเสียงในโซเซียลมีเดีย พรรคการเมืองเพียงแจ้งมายัง กกต.ว่าจะหาเสียงทางเฟชบุ๊ค หรือไลน์ ในชื่อใดโดยไม่ต้องขออนุมัติ
“สาเหตุที่ต้องยกร่างระเบียบ เนื่องจากการหาเสียงจะทั้งกองเชียร์และกองแช่ง ถ้ากองแช่งมีมากกว่าอาจมีผู้อื่นเข้ามาใส่ร้าย ตามที่รู้กันดีว่าเฟชบุ๊กถูกปลอมเยอะ ซึ่งผู้ถูกแอบอ้างไม่รู้เรื่องเลย กกต.มีเจ้าหน้าที่เทคนิคคอยตรวจสอบ ซึ่งดิจิตอลสามารถสืบค้นไปถึงต้นทางได้ ส่วนข้อความการหาเสียงในโซเซียลมีเดีย หลักการคือห้ามใส่ร้าย ห้ามสัญญาว่าจะให้หรือซื้อเสียง ถ้าพบข้อความไม่เหมาะสม กกต.จะขอให้ลบ ถ้าไม่ลบ กกต.จะลบให้” เลขาธิการกกต. กล่าว
ด้านนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ชี้แจงถึงการตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครของพรรคการเมือง ว่า คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13/2561 ทำให้การตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัครแตกต่างไปจากเดิม คือจากที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง สมาชิกเลือกผู้สมัครขึ้นมา กลายมาเป็นตั้งกรรมการสรรหาขึ้นมาเลือกผู้สมัคร แต่รายละเอียดการปฏิบัติทุกอย่างยังเหมือนเดิม การจะเป็นผู้สมัครในจังหวัดหรือเขตใด สมาชิก ตัวแทนสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดนั้น ๆ เป็นผู้ให้ความเห็น
“ดังนั้น ถ้าส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งทั่วประเทศ อย่างน้อยก็ต้องตั้งตัวแทนพรรคการเมืองหรือสาขาพรรคการเมืองประจำจังหวัดๆ ละ 1 คน หรือ 1 สาขา เพราะตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13/2561 กำหนดว่า ในการสรรหาผู้สมัครของพรรค คณะกรรมการสรรหาพิจารณาในการสรรหาด้วย” นายแสวง กล่าว
นายแสวง กล่าวถึงแนวทางการหาสมาชิกว่า ให้ดำเนินการตามการหาสมาชิกเพื่อจัดตั้งพรรค 500 คน แต่ยอมรับว่าการหาสมาชิกของพรรคการเมืองมีปัญหาอุปสรรค สำนักงานกกต.เตรียมทำข้อหนังสือถึงคสช.เพื่อขอให้กำหนดแนวทางให้ชัดเจนขึ้น เพราะแต่พรรคจะต้องหาสมาชิกเพื่อจัดตั้งสาขาและหัวหน้าสาขาพรรคกรณีที่จะส่งผู้สมัครทั่วประเทศต้องมีสมาชิก 7,700 – 10,000 คน
“ขณะนี้ยังตอบได้ไม่เต็มร้อยว่าทำได้แค่ไหนสำหรับประเด็นการใช้โซเซียลมีเดียในการติดต่อสมาชิกและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรค แต่การติดต่อกับสมาชิกจะทำได้ในประเด็นที่คลายล็อกตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13/2561 และการติดต่อทางธุรการเท่านั้น นอกจากนั้นยังถือว่าเข้าข่ายต้องห้ามตามคำสั่ง คสช.ที่ 57/2557 ส่วนเรื่องการหาเสียง กกต.ยอมรับว่าเป็นห่วง เพราะไม่ได้เป็นผู้ใช้ดุลพินิจ เนื่องจากเรื่องเกี่ยวกับความไม่สงบเรียบร้อยอยู่ในอำนาจของคสช. ซึ่ง กกต.ทำได้แค่อธิบายไม่ให้เดินมาใกล้เหว” นายแสวง กล่าว.-สำนักข่าวไทย
