เอสเอ็มอีแบงก์เสนอขยายเวลาจัดทำบัญชีเดียวออกไป 1 ปี

เอสเอ็มอีทาวเวอร์ 28  ก.ย. – เอสเอ็มอีแบงก์เตรียมหารือคลัง-อุตสาหกรรม-ภาคเอกชน ขยายเวลาจัดทำบัญชีเดียวออกไป 1 ปี แนะ ธปท.แก้ไขบทเฉพาะกาลลดผลกระทบรายย่อย พร้อมตรึงดอกเบี้ยถึงสิ้นปี


นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) กล่าวว่า เอสเอ็มอีจดทะเบียนนิติบุคคลแล้วกว่า 500,000 ราย คิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 11-12 ที่มีการทำบัญชีเป็นมาตรฐาน  แต่ยังมีรายย่อยไม่พร้อมทำบัญชีเดียวประมาณ 3 ล้านราย เป็นรายย่อยขนาดเล็กไม่มีความรู้ ไม่รู้ข้อมูลว่ามีข้อกำหนด หรือลังเล ไม่ใส่ใจเรื่องการทำบัญชีเดียว  เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนให้กับรายย่อยที่ไม่เคยจัดทำบัญชีในการหามาตรการช่วยเหลือ จึงเตรียมหารือกับกระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสหากรรม สถาบันการเงินรัฐ  สภาอุตสหากรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าไทย เพื่อขยายข้อกำหนดการจัดทำบัญชีเดียวออกไปอีก 1 ปี หวังลดผลกระทบกับรายย่อย

ทั้งนี้ เพื่อหามาตรการเยียวยา ผ่อนปรนกฎเกณฑ์ให้รายย่อยเข้าถึงแหล่งทุน จากนั้นจะเปิดให้เอสเอ็มอีรายย่อยมาลงทะเบียน เพื่อขยายเวลาการจัดทำบัญชีเล่มเดียวเฉพาะกลุ่มที่ต้องการให้ช่วยเหลือ รวมทั้งการเสนอตั้งกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีแนวประชารัฐ เดิมมีเงินเหลือ 8,000 ล้านบาท ใช้แล้วเหลือไม่เกิน 2,000 ล้านบาท เพื่อนำกองทุนดังกล่าวไปช่วยเหลือดูแลและส่งเสริมให้เอสเอ็มอีปรับตัวเพื่อทำบัญชีเดียว เพื่อส่งเสริมให้คนไม่รู้ ได้รู้จักการทำบัญชี และปรับทัศนคติการทำบัญชี  ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระบบ มองว่าเมื่อเศรษฐกิจยังมีความเสี่ยง ทั้งราคาน้ำมันและสงครามการค้าสหรัฐกับจีน  การปรับเพิ่มดอกเบี้ยอาจได้รับผลกระทบต่อเอกชนหลายส่วนโดยเฉพาะรายย่อย และสภาพคล่องในระบบยังสูงถึง 2 ล้านล้านบาท


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  กล่าวว่า เสนอแนะให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แก้ไขบทเฉพาะกาลข้อกำหนดเรื่องการจัดทำบัญชีเดียวแม้จะเริ่มโครงการมาแล้ว 2 ปี แต่ผลสำรวจผู้ประกอบการเอสเอ็มอีโดยเฉพาะกลุ่มรายย่อย รายเล็กไม่ทราบข้อมูลข้อกำหนดการจัดทำบัญชีเดียว จึงเสนอขยายเวลาออกไปอีก 1 ปี เพื่อนำหลักฐานการเงินแสดงฐานะการเงินในการขอสินเชื่อและรายเล็ก รายย่อย ร้อยละ 60-70 พร้อมจัดทำบัญชีเดียว ได้รับการพัฒนา อบรมการจัดทำบัญชี หากได้รับการพิจารณาปล่อยสินเชื่อ

ส่วนกรณีการปรับเพิ่มดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ  มองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงไม่ปรับดอกเบี้ยช่วงสิ้นปีนี้ แต่อาจปรับเพิ่มไตรมาสแรกปี 2562 เพราะเศรษฐกิจยังมีความเสี่ยง อีกทั้งเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ จึงไม่ควรปรับเพิ่มเพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท เนื่องจากเงินบาทไม่ผันผวนเหมือนกับต่างชาติ  อีกทั้งควรดูแลเอสเอ็มอีให้เข้าถึงสินเชื่อมากขึ้น ผ่านมาตรการหลายด้าน เพราะเอสเอ็มอีกลุ่มนี้มีผลต่อกำลังซื้อรายย่อยของชาวบ้าน เพราะหากรายย่อยไม่ฟื้นตัวในต้นปีหน้าจะมีผลต่อการขยายตัวของจีดีพีปี 2562 ที่ตั้งเป้าหมายขยายตัวร้อยละ 4.5 จึงต้องพิจาณาช่วยเหลือเอสเอ็มอีรายย่อย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

DSI ฝากขัง “สามารถ-แม่” พร้อมคัดค้านประกันตัว

DSI ฝากขัง “สามารถ-แม่” พร้อมคัดค้านประกันตัว ด้านแม่ตะโกนร้องขอความเป็นธรรม ถูกกลั่นแกล้ง แจงเป็นเงินบุญ ปี 64 ขณะที่ “สามารถ” เผย “อยากพูด แต่พูดไม่ได้“

งด ครม.

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” วันศุกร์

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” ศุกร์นี้ นายกฯ ตั้งเป้าปีหน้าน้ำท่วมภาคเหนือต้องไม่เกิดอีก ด้าน ศปช. เตรียมเสนอแผนแก้อย่างเป็นระบบใน ครม.สัญจร ศุกร์นี้