ประจวบคีรีขันธ์ 14 ก.ย.- ตำรวจยันดำเนินคดีหนุ่มลาวอย่างเต็มที่ ไม่มีการปกป้อง หลังก่อเหตุซิ่งเบนซ์แหกด่านตำรวจ ประจวบฯ ค้นภายในรถพบกัญชา 2.07 กรัม
ความคืบหน้ากรณีนายสุริยา หาบุญ หนุ่มลาวขับรถเบนซ์หรูแหกด่านตรวจตำรวจทางหลวง บนถนนเพชรเกษม ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มุ่งหน้าลงใต้ อ.ทับสะแก ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันสกัดจับได้ ที่ อ.ทับสะแก และปฏิเสธที่จะเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น จนต้องนำรถยก ยกเข้าไปที่ สภ.ทับสะแก โดยชายดังกล่าวได้โทรหาญาติในประเทศลาว ขึ้นเครื่องจากเวียงจันทน์ เดินทางมาที่สนามบินดอนเมืองโดยมีญาติในฝังไทยไปรับ และเดินทางไปที่ สภ.ทับสะแก เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เมื่อพบญาติ ชายคนดังกล่าว จึงยอมเปิดประตูออกมาจากรถให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นภายในรถ พบกัญชาแห้ง
ขณะที่โลกโซเชียล แชร์ในทำนองว่าปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกมาปกป้องหนุ่มลาวคนดังกล่าว ซึ่ง นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ชี้แจงว่า หลังทราบข่าวกรณีดังกล่าวตนเองได้เดินทางไปเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเข้าไปเจรจา ส่วนโลกโซเชียลที่แชร์กันไปโดยที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ เพราะในขณะเกิดเหตุการณ์นี้พบว่ามีไทยมุงเป็นจำนวนมาก จึงพยายามพูดเพื่อให้สถานการณ์ไทยมุงเบาลง เพื่อให้ง่ายต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ และเพื่ออำนวยความสะดวกในการสอบสวนญาติของฝ่ายผู้ต้องหา ซึ่งเป็นชาวลาว
ด้าน พ.ต.อ.วรเดช สวนคล้าย ผกก.สภ.ทับสะแก กล่าวว่า จากการตรวจค้นได้พบกัญชาแห้ง 2.07 กรัม บรรจุถุงพลาสติกซุกซ่อนอยู่ในกระบอกน้ำ ในรถยนต์คันดังกล่าว จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และทำการจับกุมตัว นายสุริยา ดำเนินคดีในข้อกล่าวหาว่า ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานที่สั่งการตามหน้าที่แล้วไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง โดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันควร และมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ในชั้นสอบสวน นายสุริยาให้การรับสารภาพ และได้ตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่พบว่าขาดต่อ จึงได้เปรียบเทียบปรับ และความคุมตัวไปนายสุริยา ไปยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลจังหวัดประจวบฯ เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา เป็นครั้งที่ 1 มีกำหนด 12 วัน ซึ่งศาลอนุญาตตามคำร้อง และขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการสอบสวน อย่างไรก็ตามนายสุริยาได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวต่อศาล และได้รับการประกันตัว.-สำนักข่าวไทย