รองเลขาฯกกต.กำชับจัดเตรียมสถานที่ลงคะแนน ส.ว.ระดับอำเภอให้พร้อม

เมืองทองฯ 27 ก.ย.- “ณัฏฐ์” กำชับ ผู้ว่าฯ- นายอำเภอ จัดเตรียมสถานที่ลงคะแนน ส.ว.ระดับอำเภอให้พร้อม หวั่นถูกร้องเรียนภายหลัง  เผยมีระบบตรวจสอบผู้สมัครซ้ำซ้อน จะขาดคุณสมบัติทันทีเตือนสื่อระวังการนำเสนอ 


นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวชี้แจงรายละเอียดการเตรียมความพร้อมการได้มาซึ่ง ส.ว. และการเลือกตั้ง ส.ส. ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย ทั่วประเทศ   ว่า ได้กำชับ ในเรื่องการสถานที่ลงคะแนนคัดเลือก ส.ว. ว่าให้ระวังเรื่องการจราจร  เพื่อไม่ให้เป็นเงื่อนไข ให้ผู้สมัครรับการสรรหานำมาร้องในภายหลังว่าไม่สามารถมาลงคะแนนได้ทันเพราะติดขัดในเรื่องปัญหาจราจร  โดยเฉพาะการมารายงานตัวไม่ทันกับเวลาที่กำหนด เพราะจะถูกตัดสิทธิ์ทันที   และในส่วนของสถานที่จะต้องโอ่โถง สามารถบรรจุผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้   ซึ่งขอให้พิจารณาโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ  ส่วนการสมัครให้หาสถานที่ที่อยู่ติดกับห้องทะเบียนอำเภอ เพราะว่าผู้สมัครสามารถนำบัตรประชาชน ไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่ เครื่องอ่านบัตรก็จะพิมพ์เอกสารประวัติของบุคคลนั้นออกมา และให้แนบกับเอกสารขององค์กรที่ส่งสมัคร 

นายณัฏฐ์  กล่าวว่าในระหว่างการลงคะแนนอย่าให้ผู้สมัครกลับก่อน  และจะต้องรอให้การนับคะแนนเสร็จสิ้น  เพราะหากพบว่า มีผู้สมัครได้ศูนย์คะแนน เกิน ร้อยละ 10 ของจำนวนผู้สมัคร แสดงว่ามีการฮั้ว  ดังนั้นต้องมีการลงคะแนนใหม่  แต่หากพบว่าในอำเภอใดมีผู้สมัครในกลุ่มจังหวัด ไม่เกิน 3 คน  ให้ถือว่า 3 คน นั้นจะได้รับการคัดเลือก โดยไม่ต้องลงคะแนน  พร้อมกันนี้ในส่วนของวันลงคะแนน ให้ผู้สมัครมารายงานตัวตั้งแต่เวลา 08.00 – 09.00 น. จากนั้นในเวลา 09.00 น. ให้ประธานคณะกรรมการชี้แจงแนวทางการคัดเลือก โดยขอให้แต่ละจังหวัดจัดสถานที่ให้พร้อม  เบื้องต้นตนได้ทดลองการลงคะแนนว่า ใน 1 ชั่วโมงควรจะลงคะแนนให้ได้ 100 คน เพราะในกรณีของจังหวัดใหญ่อาจะมีปัญหาถ้าที่ผู้สมัครจำนวนมาก  โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา ทาง กกต.จะเข้าไปดูแลเป็นพิเศษ  แต่ กทม. ไม่น่ามีปัญหา เพราะมีการซักซ้อมไปบ้างแล้ว    


รองเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า สำหรับการส่งผู้สมัครขององค์กรต่าง ๆ จะต้องส่งผู้สมัครที่เกี่ยวข้องกับองค์กรวิชาชีพนั้น ๆ และส่งได้อำเภอละ 1 คน โดยผู้สมัครที่ได้รับการเสนอชื่อในนามองค์กรแล้ว จะไม่สามารถไปสมัครในนามอิสระ หรือไปลงในอำเภออื่น ๆ อีก และ กกต.มีระบบที่จะตรวจสอบ  ซึ่งหากมีบุคคลผู้นั้นจะขาดคุณสมบัติทันที  ส.ว. 250 คน ถือว่าสำคัญ เพราะไม่เพียงเป็นผู้พิจารณากฎหมาย แต่ยังเป็นผู้มีสิทธิ์โหวตนายกรัฐมนตรี  

นายณัฏฐ์  ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกรณีต้องเก็บข้อมูลเพื่อเอาผิดหากมีการร้องเรียนว่า  กฎหมายกำหนดให้ กกต. ต้องเก็บข้อมูลที่เข้าข่ายว่ากระทำผิดไว้ทั้งหมด โดยอนาคตหากมีคนร้อง ก็จะไปเอาข้อมูลนั้นมาสืบสวน ไต่สวนตามกระบวนการของ กกต. จากนั้นก็จะมีการเสนอให้ กกต.พิจารณา  หากเห็นว่ามีความผิดจะต้องส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา  ซึ่งก็อาจจะเป็นศาลฏีกา โดยทางศาลจะเป็นผู้กำหนดว่าจะให้แผนกคดีใดเป็นผู้พิจารณา  อาจเป็นคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทากการเมืองก็ได้  ซึ่งเรื่องการดูด ส.ส. ตามกฎหมายพรรคการเมืองระบุว่า ไม่ให้มีการเสนอให้ทรัพย์สินหรือเงินทองเพื่อแลกกับการให้มาเป็นสมาชิกพรรคการเมือง  หากมีการดำเนินการก็เป็นโทษ และหากเป็นการดำเนินการของกรรมการบริหารพรรค มีโทษถึงยุบพรรค  

รองเลขาธิการ กกต. กล่าวเตือนสื่อว่า ให้ระวังการทำข่าวและเสนอข่าว เกี่ยวกับการเลือกส.ว. โดยเฉพาะในช่วงการเปิดรับสมัคร ส.ว.ระดับอำเภอ ที่จะต้องรอให้ปิดรับสมัครก่อน จึงจะสามารถรายงานจำนวนได้  เพราะกฎหมายห้ามเปิดเผยเนื่องจากเกรงว่า จะทำให้ผู้สมัครรู้ว่ากลุ่มองค์กรใดยังจำนวนน้อยหรือมีใครสมัครในกลุ่มใดบ้าง อาจเกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ   รวมทั้งไม่ควรไปสัมภาษณ์ผู้สมัคร  หรือนำเสนอประวัติของผู้สมัคร  เพราะกฎหมายห้ามผู้สมัครหาเสียง  ทำได้เพียงแต่การแนะนำตัว  ซึ่งผู้สมัครจะสามารถแนะนำตัวกันเองได้เท่านั้น และจะใช้โซเชียลแนะนำตัวเองไมได้ การที่กฎหมายไม่ให้หาเสียง  เพราะผู้สมัคร ส.ว.จะต้องมีต้นทุนทางสังคมสูงมาก  ไม่ใช่โนเนมแล้วจะมาสมัคร .-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]