ศาล รธน.ไต่สวน 3 พยานคดีหุ้น “ดอน”

ศาลรัฐธรรมนูญ 25 ก.ย.-ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวน 3 พยานคดีหุ้น “ดอน” โดยประธานคณะกรรมการไต่สวนของ กกต. ยันทำเอกสารโอนหุ้นย้อนหลัง พบพิรุธไม่แจ้ง ป.ป.ช. ไม่มาชี้แจง ด้านกรรมการ 2 บริษัทฯ แจงไม่ขึ้น ปมต้องจัดประชุมวิสามัญรับรองการโอนหุ้น-ไร้หนังสือนำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแจ้งเปลี่ยนแปลงหุ้น ศาลนัดพิจารณาคดีนี้ครั้งต่อไป 17 ต.ค.61


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25ก.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสามว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 และต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสองหรือไม่ โดยศาลได้ให้พยาน 3 ปาก คือ นายมนัส สุขสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวของสำนักงาน กกต.  , นายภัฏฏการก์ บุนนาค กรรมการผู้จัดการบริษัทปานะวงศ์ รีแอลที่ จำกัด และนายตรีวัฒน์ ทังสุบุตร กรรมการผู้จัดการบริษัทปานะวงศ์ จำกัด เข้าไต่สวน  โดยนายดอน และนายเสรี สุวรรณภานนท์ ทนายความของนายดอน ได้เข้าร่วมรับฟังและซักถามพยานด้วย

ในการไต่สวน ศาลได้พยายามสอบถามเรื่องของข้อบังคับบริษัทเกี่ยวกับการโอนหุ้น การลงรายการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท การมีหนังสือนำส่งรายงานการโอนหุ้นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และการจัดประชุมสามัญและวิสามัญประจำปีของบริษัทที่มีข้อสังเกตว่าวาระการประชุมของปี 2557-2559  มี 5 วาระที่ดำเนินการเป็นประจำในทุกปี โดยไม่พบว่ามีเรื่องการรับรองการแจ้งเปลี่ยนแปลงผู้มีถือหุ้นเลย แต่มาพบเป็นวาระการประชุมเดียวในวาระการประชุมวิสามัญของปี 2560


นายมนัส ในฐานะประธานคณะกรรมการไต่สวนคดีนี้ของ กกต. ชี้แจงว่า ในการสอบสวนเมื่อมีเหตุสงสัยเรื่องพยานเอกสารได้ให้โอกาสนายดอน ผู้ถูกร้องมาชี้แจงหลายครั้ง แต่ไม่มา ส่งเป็นเอกสารมาเท่านั้น โดยพยานเอกสารที่นายดอนส่งมาแม้จะเป็นหนังสือของนางนรีรัตน์ ปรมัตถ์วินัย ภรรยายนายดอน ที่แสดงเจตนาโอนหุ้นให้นายเพื่อน ปรมัตถ์วินัย บุตรชายในวันที่ 10 เมษายน 2560 และมีการโอนหุ้นในวันที่ 27 เมษายน และวันที่ 30 เมษายน 2560 ถ้ามีการดำเนินการจริงในวันเวลาดังกล่าว ทำไมจึงไม่มีการแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้รับทราบ และแจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่าได้มีการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นในบริษัทแล้ว ขณะเดียวกันกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และประธาน ป.ป.ช.แจ้งมาเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2560 ซึ่งเป็นระยะเวลาหลังรัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้ไปแล้ว 4 เดือนว่าการถือหุ้นของนางนรีรัตน์ในบริษัททั้งสอง ยังคงเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้น ประกอบกับทั้งสองบริษัทเป็นบริษัทภายในครอบครัว จึงทำให้คณะกรรมการไต่สวนฯ เห็นว่าการชี้แจงของนายดอนที่ว่าภรรยามีการโอนหุ้นให้นายเพื่อนใน 30 วันหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ ไม่น่าเชื่อถือ

“ผมในฐานะประธานคณะกรรมการไต่สวนฯ มีหนังสือไปยังประธานบริษัททั้งสองเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 ขอให้ชี้แจงว่าระหว่างปี 58-60 นางนรีรัตน์ ได้ถือหุ้นในบริษัทเท่าไร คิดเป็นละร้อยละเท่าไรจนถึงปัจจุบัน และได้หุ้นมาด้วยวิธีใด ซึ่งบริษัทก็ตอบมาเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2560 ว่าการถือหุ้นเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะบริษัทปานะวงศ์ จำกัด  ระบุว่านางนรีรัตน์ถือหุ้น 7,200 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 12 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ตรงกับข้อมูลที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและประธาน ป.ป.ช.ส่งมา เมื่อพยานหลักฐานเป็นเช่นนี้ คณะกรรมการไต่สวนฯ ก็ไม่อาจฟังเป็นอย่างอื่นได้” นายมนัส กล่าว

นายมนัส ยังยอมรับกับคำถามที่นายเสรี ทนายความของนายดอน ซักค้านว่าที่นายมนัสเห็นว่าพยานหลักฐานที่นายดอนนำเสนอไม่น่าเชื่อถือและเป็นการทำย้อนหลังเพื่อเอาไว้ชี้แจงต่อศาลเท่านั้นเป็นความเห็นส่วนตัว ไม่มีอยู่ในมติของคณะกรรมการไต่สวนฯ  หรือในการพิจารณาของ  กกต. เป็นการตอบในประเด็นที่ศาลตั้งประเด็นขอความเห็นว่ามีความเห็นเพิ่มเติมต่อกรณีนี้อย่างไร


ด้านนายภัฏฏการก์ บุนนาค กรรมการผู้จัดการบริษัทปานะวงศ์ รีเอลที่ จำกัด ชี้แจงว่า หุ้นของบริษัทเป็นใบหุ้นระบุชื่อโดยมีข้อบังคับบริษัทว่าถ้ามีการโอนหุ้นต้องแจ้งบริษัททราบเพื่อป้องกันคนนอกไม่ให้เข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อโอนหุ้นแล้วต้องเข้าที่ประชุมเพื่อรับทราบทุกครั้ง แล้วจึงมอบสำนักบัญชีไปดำเนินการแจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าฯ ส่วนการโอนหุ้นในอดีต เคยมีของนายตรีวัฒน์ โอนให้บุตรแต่จำไม่ได้ชัดว่าปีอะไร ยอมรับว่าในปี 2557-2559  ไม่มี เพิ่งจะปรากฎเป็นครั้งแรก คือ กรณีของนางนรีรัตน์ ซึ่งเห็นว่าเมื่อบริษัทรับทราบสัญญาการโอนหุ้นในวันที่ 30 เมษายน  ก็น่าจะถือว่าการโอนหุ้นมีผลตามกฎหมายในวันดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายจรัญ  ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สอบถามถึงการแจ้งการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นไปยังกรมธุรกิจการค้าว่าต้องมีหนังสือนำส่ง นายภัฏฏการก์  ได้เคยเซ็นหรือเห็นหนังสือฉบับนี้หรือไม่ เพราะตามแบบพิมพ์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผู้เป็นกรรมการบริษัทต้องลงนามและประทับตราบริษัท รวมทั้งจากเอกสารกาประชุมสามัญปี 2557-2559 ที่บริษัทนำส่งทุกครั้งจะมี 4-5 วาระ เช่น การรับรองผลการดำเนินการประจำปีที่ผ่านมา การตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีและการกำหนดค่าตอบแทน การรับรองงบดุล แต่เหตุใดในการประชุมสามัญปี 2560 กลับไม่มีวาระเหล่านี้ และมามีในการประชุมวิสามัญครั้งที่ 2  ซึ่งก็ไม่มีวาระในเรื่องแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีและค่าตอบแทน

ขณะที่นายตรีวัฒน์ ทังสุบุตร กรรมการผู้จัดการบริษัทปานะวงศ์ จำกัด ชี้แจงว่า หุ้นของบริษัทเป็นประเภทระบุชื่อ บริษัทไม่มีข้อบังคับ แต่เมื่อมีการโอนหุ้นต้องเข้าที่ประชุมเพื่อแจ้งผู้ถือหุ้นทราบ โดยจะนำเข้าที่ประชุมหลังเปลี่ยนแปลงกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว โดยการเปลี่ยนแปลงจะมีอยู่ในสมุดบัญชีผู้ถือหุ้น ยืนยันการเปลี่ยนแปลงหุ้นในกรณีนี้มีบันทึกอยู่ในสมุดทะเบียนและนำส่งภายหลัง

นายตรีวัฒน์ กล่าวอีกว่า การประชุมสามัญประจำปี 2560 มีวาระ 2 เรื่อง คือ รับรองงบการเงิน กับเรื่องอื่น ไม่มี 5 วาระเหมือนปี 2557-2559  รวมทั้งไม่มีวาระการแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชี เพราะเจ้าหน้าที่ที่รับดำเนินการทำไม่ทัน และในเมื่อการประชุมสามัญไม่ได้อนุมัติแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีและกำหนดค่าตอบแทน จึงต้องมีการประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่องที่ขาด แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว ส่วนการแจ้งการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ดำเนินการ จึงไม่ทราบเรื่องหนังสือนำส่งและกระบวนการ เพราะเป็นการแจ้งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ การที่คณะกรรมการไต่สวนของ กกต.ส่งหนังสือไปสอบถามเรื่องการถือหุ้นของนางนรีรัตน์นั้น เจ้าหน้าที่บริษัทได้ตอบตามเอกสารที่ปรากฎกับกระทรวงพาณิชย์ แต่ไม่ได้ตอบตามที่มีการโอนหุ้นจริง เพราะยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ ประกอบกับเจ้าหน้าที่เร่งรัดในเรื่องการตอบโดยให้เวลาเพียง 10 วันนับแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2560 แต่บริษัทก็ตอบภายใน 3 วัน

หลังการไต่สวนเสร็จสิ้น นายนุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้แจ้งต่อคู่กรณีว่า ศาลนัดพิจารณาคดีนี้ในครั้งต่อไปวันที่ 17 ตุลาคม 2561 เวลา 13.30 น. ขณะที่นายดอน ได้เดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้

วุ่นแต่เช้า! ด่านคลองลึก “ไทย-กัมพูชา” เปิดไม่พร้อมกัน

สระแก้ว 8 มิ.ย.- ด่านคลองลึก วุ่นแต่เช้า! “ไทย-กัมพูชา” เปิดด่านชายแดนไม่พร้อมกัน หลังปรับเวลาวันแรก ทำคนรอหน้าด่านจำนวนมาก ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดประตูด่านพรมแดนคลองลึก บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เนื่องจากวันนี้นับเป็นวันแรกที่เริ่มใช้มาตรการเปิดด่านเวลา 08.00 น. พอถึงเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการเปิดประตูด่านพรมแดน บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา แต่ทางฝั่งกัมพูชา ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดด่านแต่อย่างใด โดยมีชาวกัมพูชาและแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากจากฝั่งไทยที่จะเดินทางกลับประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งพนักงานกาสิโนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต้องมายืนรอกัมพูชาเปิดด่าน ต่อมา พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ. ร้อย ทพ.1201 ได้เดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่กัมพูชาบริเวณประตูพรมแดนฝั่งกัมพูชาถึงสาเหตุที่กัมพูชายังไม่เปิดด่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.และตำรวจกัมพูชา แจ้งมาว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาให้เปิดด่านเวลา 09.00 น. ซึ่งไม่ตรงกับไทย ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องออกประชาสัมพันธ์ให้ชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคนไทยที่จะไปทำงานในฝั่งกัมพูชาทราบว่าด่านไทยเปิดเวลา 08.00 น. แต่ด่านกัมพูชา เปิด 09.00 น. […]

“อนุทิน” ยันอุบลฯ ไม่โดดเดี่ยว ลั่นจะไม่ให้ใครรุกราน

อุบลราชธานี 8 มิ.ย.- “อนุทิน” ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยันอุบลราชธานีไม่ได้โดดเดี่ยว ลั่นจะไม่ให้ใครรุกราน ขณะที่ชาวบ้านยอมรับหวาดกลัว แต่อุ่นใจมีทหารคอยดูแลความปลอดภัย นายอนุทิน​ ชาญ​วีระกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ นำคณะปฏิบัติราชการที่จังหวัดอุบลราชธานี จุดแรกที่ศูนย์พัฒนาเขตพื้นที่ชายแดน บ้านทุ่งสมเด็จ หมู่ที่ 17 ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน เพื่อมอบสิ่งของให้ทหาร​ ชรบ.​อส. ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จากนั้นไปดูหลุมหลบภัย 2 จุด คือหลุมหลบภัย โรงเรียนบ้านแปดอุ้ม และหลุมหลบภัยวัดบ้านค้อ ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่ การลงพื้นที่ครั้งนี้ นายอนุทินเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวก่อนจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์​จากอุบลราชธานี มาพื้นที่ชายแดน​พร้อมกับปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมการปกครอง​ก่อนวันพุธที่ 11 มิถุนายน​ จะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชาทั้ง 7 จังหวัดมาประชุมร่วมกันที่อุบลราชธานี​ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ​ ถึงแนวทางในการดูแลพี่น้องประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นายอนุทิน แนะนำผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ 7 จังหวัด รวมถึงสส. ทั้งของพรรคภูมิใจไทยและต่างพรรคที่มาเป็นกำลังใจให้ทุกคนโดยเฉพาะทหารที่เป็นกำลังสำคัญ​ และรับรองได้ว่าจะไม่ให้ใครรุกรานเข้ามาแม้แต่มิลลิเมตรเดียว​ พร้อมยืนยันอุบลราชธานีไม่ได้โดดเดี่ยว คนไทยทุกคนพร้อมที่จะคอยตรึงแนวหลัง ให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ชาวบ้านในพื้นที่ ที่มารอต้อนรับคณะของนายอนุทิน ยอมรับว่าหวาดกลัวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะเคยประสบเหตุ เหยียบกับระเบิด […]