fbpx

แหม่มอังกฤษขอโทษ เข้าใจผิดว่าถูกข่มขืน

กทม.24 ก.ย.- แหม่มอังกฤษ ขอโทษพร้อมขอบคุณ จนท.ไทย ไขข้อข้องใจจนรู้ชัดไม่ได้ถูกข่มขืนอย่างที่เข้าใจ


พ.ต.อ.กฤษณะ  พัฒนเจริญ  รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก สภ.เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า เมื่อ 23 กันยายน เวลาประมาณ 06.00 น. ได้รับแจ้งจากสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยว่า มีนักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ ชื่อ MISS ELIZABETH JOANNA อายุ 25 ปี แจ้งว่าไปเที่ยวปาร์ตี้แล้วกลับห้องพอตื่นขึ้นมา พบว่าตนถูกถอดเสื้อผ้า คิดว่าอาจถูกข่มขืนภายในห้องพักที่ 77 คอลอน บังกะโล ม.6 ต.บ้านใต้ พนักงานสอบสวน พร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ฝ่ายสืบสวนและผู้เกี่ยวข้อง ไปตรวจที่เกิดเหตุ พบ  MISS  ELIZABETH JOANNA ยังอยู่ในอาการเมา พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง มีพยาบาลโรงพยาบาลเกาะพะงัน ปฐมพยาบาล             


ผู้เสียหาย เล่าว่า ตื่นนอนมาพบว่าเสื้อผ้า ยกทรง กางเกงในถูกถอดกองอยู่บนพื้น และผ้าคลุมเตียงมาอยู่หน้าห้องน้ำ สงสัยว่าจะถูกข่มขืน และว่าได้ไปร่วมงานปาร์ตี้ที่บังกะโลที่พัก แล้วไปร่วมงานปาร์ตี้ที่ชายหาดริ้น ชาวต่างชาติที่มาร่วมงานได้ส่งสุราบรรจุในถังพาสติกให้ดื่มหลายครั้ง ต่อมาได้กลับห้องพักเพราะเมาแล้วเข้านอน ตื่นมามีอาการอ่อนแรงจำอะไรไม่ได้ คิดว่ามีคนเข้ามาข่มขืน จึงแจ้งให้บิดาที่อยู่ต่างประเทศ ทราบจากนั้นบิดาได้โทร.หาเจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษ แล้วโทร.แจ้งมาที่ สภ.เกาะพะงัน

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าห้องพัก พบว่าผู้แจ้งกลับเข้าห้องพักเวลา 02.51 น.วันที่ 23 กันยายน และปิดไฟในห้องพักเวลา 03.13 น.และเวลา 03.34 น. ของวันเดียวกัน ผู้แจ้งได้เปิดประตูเข้าออก ลักษณะเหมือนคนประสาทหลอนออกมาพูดคุยกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่พักอยู่ห้องใกล้กัน แต่ชาวต่างชาติไม่สนใจ ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุภายในห้องพัก เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดปกติ ไม่มีบุคคลเข้าไปในห้องแต่อย่างใด ประกอบกับพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวผู้แจ้งไปทำการตรวจร่างกายตรวจ ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือดหาสารเสพติด ที่โรงพยาบาลเกาะพะงัน ผลการตรวจเบื้องต้นไม่พบว่ามีการร่วมเพศ ร่างกายไม่ถูกทำร้าย ไม่พบสารเสพติดในปัสสาวะ 


รอง โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแสวงหาข้อเท็จจริงและพิสูจน์ทราบการกระทำความผิดตามที่ผู้แจ้งอ้างถึง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก ประกอบกับข้อมูลสืบสวนทางกล้องวงจรปิดและข้อมูลผลการชันสูตรบาดแผลจากแพทย์ ชี้แจงให้ความกระจ่างกับผู้แจ้ง ซึ่งผู้แจ้งได้กล่าวขอโทษทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวขอบคุณตำรวจที่เกี่ยวข้องที่ทำงานอย่างมืออาชีพทุกขั้นตอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้