ก.เกษตรเร่งแก้ปัญหานมโรงเรียนทั้งระบบ

กรุงเทพฯ  24 ก.ย. – รมว.เกษตรฯ เตรียมมอบนโยบายนมโรงเรียนบ่ายนี้ คุมเข้มจัดสรรสิทธิ์การจำหน่าย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเด็กนักเรียนดื่มนมที่คุณภาพและปลอดภัย


นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันนี้คณะอนุกรรมการบริหารจัดการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนมารับทราบนโยบายการควบคุมดูแลการจัดสรรสิทธิจำหน่ายนมโรงเรียน เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ทันก่อนเปิดภาคเรียนที่ 2/2561 โดยจะกำชับให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้จัดสรรสิทธิ์จำหน่ายนมโรงเรียนว่า มีคุณสมบัติถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ได้สั่งการให้แก้ไขข้อกำหนดการจัดสรรสิทธิ์ แต่ยังคงให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการฯ นมโรงเรียนตามกฎหมายเช่นเดิม แต่ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) และกรมส่งเสริมสหกรณ์ตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารต่าง ๆ ของผู้ยื่นขอจัดสรรสิทธิ์จำหน่ายนมโรงเรียนในภาคเรียนที่ 2 ทั้งรายเก่าและผู้ที่ยื่นขอใหม่ อีกทั้งให้ทบทวนประวัติการส่งนมโรงเรียนของผู้ได้รับการจัดสรรสิทธิว่า ที่ผ่านมามีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับนมเสียหรือน้ำนมไม่ได้คุณภาพจนถูกลงโทษหรือไม่ เพื่อนำมาพิจารณาในการจัดสรรสิทธิในภาคเรียนที่ 2 นี้ด้วย รายที่ดำเนินการดียังคงให้สิทธิ์ต่อไป ส่วนรายที่มีประวัติเสียให้ลดหรืองดสิทธิ์การจำหน่ายตามระเบียบ 

สำหรับปัญหาที่ได้รับทราบจากคณะอนุกรรมการฯ นมโรงเรียน คือ การจัดทำ MOU กับสหกรณ์โคนมหรือศูนย์รวบรวมนมอันเป็นเท็จ โดยนำมาขอโควตาจำหน่ายนมในปริมาณที่มากกว่าน้ำนมดิบที่ผู้ประกอบการหาได้ แล้วใช้วิธีไปรับน้ำนมดิบจากที่อื่นมาผลิตและจำหน่าย ซึ่งเป็นการแย่งโควตาจากผู้ประกอบการที่มีน้ำนมดิบอยู่จริง ส่งผลให้เกษตรกรและสหกรณ์โคนมที่มีน้ำนมดิบอยู่จริงไม่สามารถจำหน่ายนมได้ จึงร้องเรียนมายังรัฐมนตรี รวมทั้งจะขอเข้าพบเพื่อให้แก้ปัญหาดังกล่าวให้ด้วยในวันนี้ 


นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการบริหารจัดการนมโรงเรียนยังเป็นห่วงเรื่องนมเสีย ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยทุกภาคเรียน โดยขั้นตอนที่จะเกิดข้อบกพร่องให้นมเสียได้มี 3 สาเหตุหลัก คือ กระบวนการผลิตในโรงงานแปรรูป การขนส่งจากโรงงานไปยังโรงเรียนซึ่งยังไม่มีระบบตรวจสอบอย่างจริงจังว่า ได้จัดวางบรรจุภัณฑ์อย่างถูกต้องและรักษาอุณหภูมิตามที่กำหนดหรือไม่ อีกส่วนหนึ่งคือ การเก็บรักษาที่โรงเรียนซึ่งจะต้องทำอย่างเหมาะสมเช่น ไม่วางซ้อนหลายชั้นจนเกินไป จนกล่องบุบหรือฉีกขาด จนทำให้นมบูดได้ 

นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการติดตามปัญหาของนมโรงเรียนพบว่า การจัดสรรสิทธิ์การส่งนมข้ามจังหวัดหรือข้ามเขตทำให้มีปัญหาการควบคุมคุณภาพนมโดยเฉพาะนมพาสเจอร์ไรส์ที่ต้องเก็บรักษาในอุณภูมิต่ำตลอดเวลา หากใช้เวลาขนส่งนานขึ้นจะเกิดความเสี่ยงที่นมจะเสีย รวมทั้งต้นทุนในการขนส่งก็สูงขึ้นด้วย ดังนั้น จะหารือกับคณะกรรมการบริหารจัดการนมโรงเรียนเรื่องเส้นทางขนส่งนม ซึ่งต้องสั้นที่สุดและต้องควบคุมคุณภาพระหว่างขนส่ง คือ จังหวัดใดที่มีสหกรณ์โคนมและมีโควตานมพาสเจอร์ไรส์ให้ส่งในจังหวัดนั้นก่อน หากมีส่วนเหลือจึงจะให้ส่งข้ามจังหวัดในระยะทางที่สั้นที่สุด ในทางกลับกันจังหวัดใดที่ไม่มีสหกรณ์โคนมก็ต้องรับโควตาจากสหกรณ์ที่มีระยะทางสั้นที่สุด นอกจากนี้ เกษตรกรยังประสบปัญหาแม่โคมีอัตราการให้น้ำนมต่ำ คือ ให้อาหารมาก แต่น้ำนมที่รีดได้แต่ละวันน้อย ซึ่งจะมอบหมายกรมปศุสัตว์เข้าไปดูแลแก้ปัญหาเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกร ขณะนี้ราคาน้ำนมดิบที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยลิตรละ 18 บาท หากต้นทุนค่าอาหารสูง แต่ได้ปริมาณน้ำนมไม่คุ้ม เกษตรกรจะมีกำไรน้อย ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ต้องดูแลให้ครบทั้งวงจรคือ ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมีรายได้อย่างเหมาะสม เด็กนักเรียนได้ดื่มนมที่มีคุณภาพตามหลักโภชนาการ และผู้ประกอบการส่งนมได้รับการจัดสรรสิทธิอย่างเป็นธรรม 

ทางด้านนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีปศุสัตว์ ประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการนมโรงเรียน กล่าวว่า ในการรับมอบนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ วันนี้จะมีการหารือเรื่องการจัดสรรพื้นที่จำหน่ายนมโรงเรียน เพื่อทบทวนประวัติของผู้ประกอบการรายเดิมว่าเคยมีปัญหาทั้งเรื่องการทำ MOU กับสหกรณ์โคนมว่าตรงกับจำนวนน้ำนมดิบที่มีอยู่จริงหรือไม่ รวมถึงเคยถูกลงโทษเนื่องจากนมเสียและนมไม่ได้คุณภาพหรือไม่ ส่วนผู้ประกอบการรายใหม่ที่มายื่นขอโควต้าก็ต้องตรวจสอบเอกสารหลักฐานให้ครบเพื่อให้การจัดสรรสิทธิ์จำหน่ายโปร่งใสและเป็นธรรม ที่ผ่านมาเมื่อเปิดรับการพิจารณาจัดสรรสิทธิ์ก็เกิดปัญหาไปฟ้องร้องกันทุกภาคเรียน ดังนั้น ในการพิจารณาจัดสรรสิทธิภาคเรียนที่ 2 จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ประกอบการ ซึ่งจะต้องทำ MOU รับน้ำนมดิบจากสหกรณ์โคนม ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์สามารถตรวจสอบได้ทุกราย หากรายใดแจ้งเอกสารเท็จ หรือขอโควตาเกินกว่าปริมาณน้ำนมดิบที่มี จะงดให้สิทธิตลอดไป ส่วนในอนาคตจะหารือกับนายกฤษฎาและคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) ให้เปิดประมูลในทุกภูมิภาคดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยใช้ระบบ e-Auction เพื่อตัดปัญหาการผูกขาด  


สำหรับเรื่องคุณค่าทางโภชนาการของนมโรงเรียนนั้นไม่ต้องเป็นกังวลเนื่องจากการผลิตนมโรงเรียนมีข้อกำหนดเรื่อง ปริมาณของแข็งในนม (Total Solid) ได่แก่ โปรตีน ไขมันสูงกว่านมพาณิชย์ อีกทั้งควบคุมจำนวน Somatic Cell ให้อยู่ในค่ามาตรฐานที่กำหนดเพื่อไม่ทำก่อโรคที่ผ่านมากรมปศุสัตว์ ได้พัฒนาระบบจัดการที่มีคุณภาพตั้งแต่ฟาร์มเลี้ยง ศูนย์รวบรวมนมหน้าโรงงาน โดยสำนักงานปศุสัตว์เขตจะสุ่มตรวจทุกเดือน ส่วนการตรวจสอบกระบวนการผลิตในโรงงานและผลิตภัณฑ์นมที่แปรรูปแล้วเป็นหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุวิภา ฝนตกหนักหลายพื้นที่

21 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนเช้าพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) ส่งผลไทยตอนบนฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณเมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าชายฝั่งเวียดนามเช้าวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณลุ่มน้ำโขงตอนบนของลาวและเวียดนาม ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักต่อเนื่อง และเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมแรงหลายพื้นที่ 60 จังหวัดทั่วประเทศ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูง 2–4 เมตร อาจเกิน 4 เมตรในบางพื้นที่ เรือเล็กงดออกจากฝั่งเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 21–25 กรกฎาคมนี้ พร้อมยังจัดตั้งศูนย์ติดตามพิเศษ หรือ War Room ตั้งแต่วันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์แบบเรียลไทม์ และสื่อสารเตือนภัยต่อเนื่อง ตลอด […]

พบอีก 2 ทุ่นระเบิดสภาพใหม่ ในพื้นที่ช่องบก

กองทัพบก 21 ก.ค.-ทบ. เผยพบทุ่นระเบิดสภาพใหม่เพิ่มเติม จำนวน 2 ทุ่น ในพื้นที่ช่องบก ใกล้กับจุดเกิดเหตุเดิม ชี้ชัดขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ด้านกรมข่าวทหารบก เตรียมเชิญผู้ช่วยทูตทหารมารับทราบข้อเท็จจริง พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 ล่าสุดวานนี้ (20 ก.ค.68) กองกำลังสุรนารี และหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยผลจากการตรวจพื้นที่พบการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN2 ในสภาพใหม่พร้อมทำงาน จำนวน 2 ทุ่น ห่างจากหลุมระเบิดเดิม 30 เซนติเมตร โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) ได้ทำการรื้อถอนทุ่นระเบิดที่ตรวจพบใหม่ออกแล้วทั้ง 2 ทุ่น การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน และแสดงถึงเจตนาในการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารไทย ทั้งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล […]

“พล.อ.ณัฐพล” ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนเขมรป่วนปราสาทตาเมือนธม

ทำเนียบ 21 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนกัมพูชาป่วนปราสาทตาเมือนธมหลักพันคนวานนี้ ขอคนไทยเข้าใจ หากอ่อนหรือแข็งไป จะหาที่ลงไม่ได้ ทำ 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อน เผยมีมาตรการรับมือป่วนซ้ำ แต่ไม่ขอแจงรายละเอียด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ศบ.ทก. ถึงกรณีกัมพูชาขนมวลชนมาป่วนที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า รัฐบาลกัมพูชาจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะมาเป็นหลักพันคน แต่ถ้าไม่รู้ก็ต้องแก้ไขทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนกัมพูชามาทำแบบเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยดูอยู่ทั้งหมด เราไม่อยากให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเครียด อยากจะบอกกับสื่อมวลชนว่าขณะนี้ประชาชนตามแนวชายแดน 7 จังหวัด เดือดร้อนมาก “เขากดดันผมว่า เมื่อไหร่จะจบเสียทีผมอยู่ตรงนี้ผมต้องรักษาบรรยากาศจะต้องไม่อ่อนแอหรือเข้มแข็งเกินไป จนหาที่ลงไม่ได้ ผมจะโดนทั้ง 2 ทาง ขณะนี้ พี่น้องอีก 70 จังหวัดก็จะมาด่าว่า ทำไมดูไม่เข้มแข็งเด็ดขาด เหมือนหมานำราชสีห์ แต่ไม่เคยสนใจ พี่น้อง 7 จังหวัดชายแดน ว่าเขาเดือดร้อนอย่างไร แต่ผมไม่อยากให้ ไปทำข่าวว่าพี่น้อง 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อนอย่างไร เพราะไม่อยากให้กัมพูชาทราบว่าของเราก็แย่อยู่ […]

ปปป.ประชุมสอบเส้นเงิน “ทิดสฤษดิ์” เอี่ยวทุจริตเงินวัด-เสพเมถุนหรือไม่

บก.ปปป. 21 ก.ค. – ผู้การ ปปป. เรียกประชุมชุดทำงาน ตรวจสอบเส้นเงิน “ทิดสฤษดิ์” เอี่ยวทุจริตเงินวัด-เสพเมถุนเศรษฐินีหรือไม่ ขณะเดียวกันยังแบ่งชุดสืบ ลงพื้นที่วัดนครสวรรค์ ตรวจสอบข้อเท็จจริง ช่วงเช้าวันนี้ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) เรียกประชุมชุดทำงานคดี “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ที่ต้องสงสัยว่ามีสัมพันธ์กับเศรษฐีนีปากน้ำโพ อายุ 57 ปี และใช้ชีวิตอยู่กินด้วยกัน ส่งเสียเลี้ยงดูฉันผัวเมียมานานกว่า 15 ปี รวมไปถึงอยู่ระหว่างขยายผลและตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินวัดหรือไม่ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง โดยสาระสำคัญวันนี้ ทาง ปปป.ได้เรียกพนักงานสอบสวนประชุมเพื่อวางแนวทาง และกรอบการทำงานในกรณีของเส้นเงินเท่านั้น ส่วนเรื่องอื้อฉาวนั้น พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังจากได้เปิดศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัย จึงได้มอบหมายให้ ปคม. เป็นเจ้าของคดีหลัก ให้ตรวจสอบถึงเรื่องราวทั้งหมดว่ามีสีกาเกี่ยวข้องกับทิดสฤษดิ์กี่คนและเข้ามามีสัมพันธ์ด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ ในฐานะอะไร ซึ่งคดีนี้เป็นเรื่องความผิดทางอาญา จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีการร่วมกันทุจริตจริงหรือไม่ จากนั้นทั้ง ปปป. และ ปคม.ก็จะเอาข้อมูลทั้งหมดมารวมกัน […]