ชุมพร 23 ก.ย. – กฟผ.รวมพลังจิตอาสาปลูกป่าชายเลนฟื้นฟูพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ระยะที่ 2 จำนวน 50 ไร่ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ร่วมกับจังหวัดชุมพร กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ (สวพ.FM91) และบล็อกเกอร์ รวมพลังจิตอาสาจากทุกภาคส่วน ทำกิจกรรม “เราทำความดีด้วยหัวใจ ปลูกป่าชายเลน เทิดไท้องค์ราชัน” ระยะที่ 2 เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมทำความดีของ กฟผ. ที่น้อมนำแนวพระราชปณิธานจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยร่วมกันปลูกป่าชายเลนเพื่อฟื้นฟูสภาพพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ณ ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร เพิ่มอีก 50 ไร่ ต่อเนื่องจากกิจกรรมปลูกป่าชายเลนระยะที่ 1 ซึ่งได้รับความร่วมมือจากจังหวัดชุมพร หน่วยงานภาคีเครือข่ายต่าง ๆ และจิตอาสาที่เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,000 คน และได้ดำเนินการปลูกป่าจนครบ 50 ไร่แรกแล้วเดือนกรกฎาคม 2561 หลังจากนี้ กฟผ.จะรณรงค์เชิญชวนภาคีเครือข่ายต่าง ๆ มาร่วมปลูกป่าชายเลนอย่างต่อเนื่อง ตลอดเดือนกันยายน – ตุลาคม 2561 เพื่อปลูกป่าให้ครบจำนวน 100 ไร่ ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นายวิบูลย์ กล่าวว่า กฟผ.มุ่งมั่นดำเนินโครงการปลูกป่าอย่างยั่งยืนตั้งแต่ปี 2537 และดำเนินต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยใช้หลักการปลูกป่าตามผลการศึกษาทางวิชาการ คือ ปลูก 1 ปี และบำรุงรักษาป่าที่ปลูกต่อเนื่อง 2 ปี สำหรับในพื้นที่จังหวัดชุมพร กฟผ. ได้ดำเนินการปลูกป่ามาแล้ว 12,065 ไร่ แบ่งเป็น ป่าบก 10,165 ไร่ และป่าชายเลน 1,900 ไร่ ซึ่งการปลูกป่าชายเลนนอกจากจะช่วยฟื้นฟูสภาพผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์แล้วยังช่วยสร้างความสมดุลของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อเป็นแหล่งอนุบาลและเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ สร้างรายได้ให้กับชาวประมงในพื้นที่ รวมทั้งการปลูกป่าชายเลนในพื้นที่ จ.ชุมพร รวม 100 ไร่นี้ เป็นการปลูกต้นโกงกางทั้งหมด คาดว่าจะสามารถกักเก็บ CO2 ได้ประมาณ 275 ตันต่อปี
“การปลูกป่าชายเลนในพื้นที่ จ.ชุมพร เป็นหนึ่งในแผนคืนความสมบูรณ์ให้กับป่าชายเลนภาคใต้ประจำปี 2561 ของ กฟผ. โดยร่วมพัฒนาองค์ความรู้ป่าชายเลนในพื้นที่ จ.ปัตตานี รวมทั้งปลูกป่าชายเลนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.นราธิวาส ทั้งนี้ กฟผ.มีหลักเลือกพื้นที่ปลูกป่าโดยต้องเป็นความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง เพื่อให้เกิดความรู้สึกมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของผืนป่าและเต็มใจที่จะช่วยดูแลรักษาป่าให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” นายวิบูลย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย