กรมสุขภาพจิต ห่วง คนเป็นโรควิตกกังวล

สำนักข่าวไทย  23 ก.ย. – กรมสุขภาพจิต แนะผู้ที่มีอาการ“ กังวล คิดฟุ้งซ่าน  กลัวเกินเหตุ”  ร่วม กับ ท้องเสีย ใจสั่น หายใจไม่อิ่ม หากเป็นเกิน 6 เดือน ให้พบแพทย์รักษา ชี้ไม่ใช่เรื่องของการคิดมาก และอย่าซื้อยากินเอง  


 นพ.บุญเรือง  ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า        การเจ็บป่วยด้วยโรคทางจิตเวชของประชาชนไทย    นอกจากโรคทางจิตแล้วยังมีในกลุ่มของโรควิตกกังวล (anxiety disorders)ซึ่งผู้ป่วยจะมีจิตใจแปรปรวนอ่อนไหวง่าย    บ่อยคือโรควิตกกังวลทั่วไป (general anxiety disorder)  ซึ่งในคนปกติทั่วไปอาจเกิดความวิตกกังวลได้ เช่นกังวลเรื่องลูกไปโรงเรียน เรื่องการเข้าทำงานใหม่  แต่ว่าจะเป็นไม่นาน อาการจะหายไปเอง  แต่ในผู้ที่เป็นโรควิตกกังวลทั่วไป จะมีอาการติดต่อกันนานกว่า 6 เดือน  เด่นชัด คือ   คิดฟุ้งซ่าน กลัวและกังวล   ส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น มีอาการใจลอย  ตกใจง่าย  ไม่สามารถหักห้ามใจไม่ให้คิดได้  และจะมีอาการทางกายปรากกฎร่วมด้วยอย่างน้อย 3 อย่าง เช่น กระสับกระส่าย เหนื่อยง่าย  ใจสั่น  ปวดตึงกล้ามเนื้อโดยเฉพาะที่ต้นคอ ไหล่ หลัง  ใจเต้นเร็วและแรง  หายใจไม่อิ่ม ท้องเสีย ปัสสาวะบ่อย มือเท้าเย็น นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ เป็นต้น    


ผลสำรวจของกรมสุขภาพจิตล่าสุดในปี 2556  พบประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป เป็นโรคนี้ร้อยละ 0.3 คาดว่าทั่วประเทศมีประมาณ 140,000 คน  

 สาเหตุของโรควิตกกังวลทั่วไปเกิดมาจากความผิดปกติทางจิตใจหรือความไม่สมดุลย์ของสารสื่อประสาทในสมอง เป็นโรคที่ประชาชนไทยมักเข้าใจผิดกันบ่อย คิดว่าผู้ป่วยแกล้งทำ หรือคิดว่าเกิดมาจากตัวเองคิดมากไปเอง  ไม่ได้เจ็บป่วย    จึงไม่ไปพบแพทย์หรือจิตแพทย์เพื่อรักษาแก้ไขที่ต้นเหตุ  ซึ่งโรคนี้มียารักษา และต้องใช้วิธีการบำบัดทางจิตสังคมร่วมด้วยเพื่อปรับความคิดและพฤติกรรมควบคู่กัน  ที่น่าเป็นห่วงก็คือการซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมากินเองเพื่อแก้ไขอาการที่ตัวเองเป็น เช่นนอนไม่หลับ ความกังวล ปวดศีรษะ   ซึ่งจะมีผลเสียมากกว่า 


ด้านนพ.กิตต์กวี  โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์  จ.นครพนมกล่าวว่า  โรควิตกกังวลทั่วไป หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง  จะทำให้อาการรุนแรงขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคทางใจและทางกายตามมาอีกหลายโรคได้แก่  โรคซึมเศร้า นอนหลับยากหรือนอนไม่หลับ   มีแนวโน้มใช้สารเสพติด เช่นดื่มเหล้า สูบบุหรี่ได้สูง รวมทั้งยังเสี่ยงเกิดโรคทางกายเช่นปวดหัวเรื้อรัง ลำไส้แปรปรวน  มีรายงานวิจัยหลายชิ้นพบว่าโรควิตกกังวล  เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ หัวใจเต้นผิดจังหวะ  โรคความดันโลหิตสูง  ร่างกายอ่อนแอติดเชื้อโรคได้ง่าย  เนื่องจากภูมิคุ้มกันโรคในร่างกายต่ำ     สำหรับผู้ที่กำลังมีอาการวิตกกังวลในขณะนี้  มีวิธีช่วยควบคุมหรือบรรเทาอาการให้ทุเลาลงได้ดังนี้ 1. พักผ่อนให้เป็นเวลา หลีกเลี่ยงหรืองดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม  รวมทั้งเครื่องดื่มชูกำลัง  เนื่องจากคาเฟอีนอาจกระตุ้นให้อาการแย่ลงได้ 2.รับประทานยาที่แพทย์สั่งอย่างครบถ้วนต่อเนื่อง  หากมีความจำเป็นต้องซื้อยารักษาโรคหรือสมุนไพรต่างๆตามร้านขายยาทั่วไปควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน  3. ฝึกทำสมาธิ ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย และรู้จักการปล่อยวาง ซึ่งจะช่วยให้จิตใจสงบขึ้น .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.