กทม. 21 ก.ย. – ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.กำหนดให้คัดสรร ส.ว.ชุดเฉพาะกาล 250 คน ให้แล้วเสร็จภายใน 3 วันนับแต่วันประกาศผลการเลือก ส.ส. ล่าสุดระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือก ส.ว.ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว และจะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ย.61)
ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือก ส.ว. กำหนดว่าภายใน 20 วัน ให้ กกต.ประกาศเกี่ยวกับการลงทะเบียนขององค์กรที่มีสิทธิแนะนำชื่อผู้สมัครเป็น ส.ว. โดยกำหนดวันลงทะเบียนขององค์กรไม่เกิน 30 วัน นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้ และต้องกำหนดวันลงทะเบียนไม่น้อยกว่า 10 วัน พร้อมกำหนดสถานที่ยื่นคำขอลงทะเบียนขององค์กร เอกสารและหลักฐานประกอบ
สำหรับการยื่นคำขอลงทะเบียนขององค์กร ขอให้เลือกจาก 10 กลุ่มนี้ได้เพียงกลุ่มเดียว เมื่อ ผอ.เลือกตั้งประจำจังหวัด ได้รับแบบคำขอแล้ว ให้ตรวจสอบความถูกต้อง
ขั้นตอนต่อมา เมื่อพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก ส.ว.มีผลใช้บังคับ ให้เลขาธิการ กกต. ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอ ก่อนวันรับสมัครไม่น้อยกว่า 3 วัน ซึ่งเมื่อคำนวณจากกรอบเวลาแล้ว คาดว่าพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวน่าจะมีผลใช้บังคับในเดือนพฤศจิกายนนี้
จากนั้น กกต.จะประกาศเกี่ยวกับวันเลือก วันรับสมัคร และสถานที่เลือก โดยระดับอำเภอประกาศภายใน 20 วัน ระดับจังหวัดภายใน 7 วัน นับแต่วันเลือกในระดับอำเภอ ระดับประเทศภายใน 10 วัน นับแต่วันเลือกในระดับจังหวัด
ส.ว.ชุดเฉพาะกาล มีที่มา 2 ส่วน คือ ส.ว. 200 คน มาจากคณะกรรมการสรรหา ซึ่ง คสช.แต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิไม่น้อยกว่า 9 คน แต่ไม่เกิน 12 คน เลือก 400 คน เสนอ คสช. จากนั้น คสช.จะเลือกให้เหลือ 194 คน รวมกับอีก 6 คนที่จะมาทำหน้าที่โดยตำแหน่ง ได้แก่ ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ขณะที่ ส.ว. 50 คน จะมาจากการเลือกกันระหว่างกลุ่มอาชีพ 10 กลุ่ม แต่ละกลุ่มแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ อิสระและองค์กรเสนอชื่อ รวมแล้วได้ 200 คน ส่งให้ คสช.เลือกให้เหลือ 50 คน
รูปแบบวิธีการเลือกจะเป็นการเลือกกันเองภายในกลุ่ม และประเภทเดียวกัน เริ่มตั้งแต่ระดับอำเภอ แต่ละคนจะเลือกได้ไม่เกิน 2 คน จะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ่งคะแนนไม่ได้ ผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 3 ลำดับแรกของแต่ละกลุ่ม แต่ละประเภท เป็นผู้ได้รับเลือกในระดับอำเภอ ส่วนการเลือกระดับจังหวัด ผู้รับเลือกระดับอำเภอในกลุ่มและประเภทเดียวกันจะเลือกกันเองได้ไม่เกิน 2 คน คะแนนสูงสุด 4 ลำดับแรก จะได้รับเลือกไปสู่ระดับประเทศ
ผู้ได้รับเลือกจากระดับจังหวัดจะเลือกคนในกลุ่มและในประเภทของตัวเองไม่เกิน 2 คน จากนั้นให้จัดเรียงลำดับคนที่มีคะแนนสูงสุด 1-10 ในแต่ละกลุ่มและประเภท รวมเป็น 200 คน ที่จะส่งให้ คสช.เลือกเหลือ 50 คน
สำหรับบัตรลงคะแนนเลือก ส.ว. ด้านในให้มีช่องเขียนหมายเลขผู้สมัคร 2 ช่อง และคำอธิบายเกี่ยวกับการลงคะแนน โดยบัตรลงคะแนนและต้นขั้วบัตรให้เย็บเป็นเล่ม เล่มละไม่เกิน 20 บัตร มีรอยปรุเพื่อให้ฉีกบัตรออกจากต้นขั้วได้ และให้มีปกหน้าและปกหลัง ซึ่งบัตรลงคะแนนต้องมีที่ลงลายมือชื่อกรรมการประจำสถานที่เลือกผู้ที่จ่ายบัตร และมีที่สำหรับให้ผู้มีสิทธิเลือกลงลายมือชื่อ หรือพิมพ์ลายนิ้วมือ เป็นหลักฐานการรับบัตรด้วย
จากกระบวนการทั้งหมดนี้ คาดว่าจะได้ ส.ว.ชุดเฉพาะกาลครบ 250 คน ภายในสิ้นเดือนมกราคม 2562 ซึ่งเป็นที่น่าจับมองว่าใครจะได้เป็น ส.ว.ชุดเฉพาะกาลนี้บ้าง เพราะความพิเศษอยู่ที่ ส.ว.ชุดนี้มีส่วนร่วมในการเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย . – สำนักข่าวไทย