กรุงเทพฯ 19 ก.ย.- 2 ป๋าเชียร์แขกอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท กลับคำให้การ ขอต่อสู้คดีค้ามนุษย์ ศาลนัดพร้อมคู่ความ วันที่ 8 ตุลาคมนี้
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัว นายมนัส อ่วมทับ หรือ ป๋านัส จำเลยที่ 4 และ นายสมชาย แสงอุดม หรือ ป๋าต้น จำเลยที่ 6 ในคดีค้ามนุษย์ในสถานอาบอบนวดวิคตรอเรียซีเครต จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมาฟังคำพิพากษาที่ศาลอาญา โดยคดีนี้พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือ ป๋าติ๊ก กับพวกรวม 10 ราย เป็นจำเลย ฐานร่วมกันค้ามนุษย์ในสถานอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท ย่านถนนพระราม 9 หลังถูกเจ้าหน้าที่ดีเอสไอบุกเข้าตรวจค้นและจับกุมเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2561 ซึ่งคดีนี้ศาลพิพากษาจำเลยแล้ว รวม 8 ราย คงเหลือจำเลย 2 คน คือ นายมนัส และ นายสมชาย ซึ่งรับสารภาพเป็นคนเชียร์แขก
เมื่อถึงเวลา ทนายจำเลยแถลงต่อศาล ว่า จำเลยทั้งสองขอกลับคำให้การเดิมจากรับสารภาพ ขอต่อสู้คดีในเรื่องค้ามนุษย์ เนื่องจากจำเลยอ้างไม่รู้ว่า มีผู้หญิง อายุ 14 ปีและต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาทำงานในอาบอบนวดวิคตอเรีย
ศาลพิจารณาแล้วให้โอกาสจำเลยต่อสู้คดี ในเรื่องการพิสูจน์อายุของหญิงที่มาทำงาน ว่าอายุไม่เกิน 18 ปีหรือไม่ โดยให้นำพยานมาไต่สวนยืนยัน จึงเห็นควรให้ถอนคำให้การเดิมที่ให้การรับสารภาพ และนัดพร้อมคู่ความ 8 ตุลาคม นี้ เวลา 09.00 น.
สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือ “ป๋ากบ” วัย 55 ปี นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือ “ป๋าติ๊ก” วัย 67 ปี ผู้จัดการสถานอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท ฐานเป็นธุระจัดหาค้าประเวณีเด็กต่างด้าว อายุไม่ถึง 15 ปี ทั้งนี้เมื่อรวม 2 สำนวนของป๋าติ๊กและป๋ากบแล้ว จำคุกเป็นเวลา 18 ปี 16 เดือน ส่วนนางสาวศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ในฐานะเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ คนขอใบอนุญาตสถานบริการ จำคุก 7 ปี 14 เดือน ยกฟ้องข้อหาค้ามนุษย์ เหตุพยานหลักฐานไม่เพียงพอให้ลงโทษ.-สำนักข่าวไทย