พม.18 ก.ย.-พม.แจงไม่พบร้องเรียนคนพิการถูกหักหัวคิว ยันหากพบสถานประกอบการหัวใสเลี่ยงจ่ายเงินเข้ากองทุน ดำเนินทางกฎหมายทันที
นางสุภัชชา สุทธิพล โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)กล่าวชี้แจงถึงกรณีผู้แทนเครือข่ายพิทักษ์สิทธิคนพิการ เข้ายื่นหนังสือต่อสำนักคุ้มครองสิทธิมนุษยชน สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)ขอให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิและปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมกับคนพิการ ว่า จากกรณีดังกล่าวแบ่งเป็น 3 ประเด็น ประเด็นที่ 1 คนพิการได้รับการปฏิบัติไม่เป็นไปตามมาตรา 33 ซึ่งตัวเลขคนพิการที่ถูกจ้างงานจำนวน 25,000 คนแต่มีการทำงานจริงเพียง20,000 คน ส่วน 5,000 คน ไม่รู้ว่าตนเองมีสิทธิได้รับสวัสดิการการจ้างงานเดือนละ 9,500 บาท จึงถูกสมาคมคนพิการและมูลนิธิช่วยเหลือคนพิการหักหัวคิวโดยจ่ายให้คนพิการเพียงเดือนละ 500 – 3,000 บาท โดยข้อเท็จจริงคือปี 2561มีการจ้างงานคนพิการตามมาตรา 33 จำนวน 36,833 คน ซึ่งพม.โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ(พก.) ไม่เคยได้รับเรื่องร้องเรียนจากคนพิการที่เป็นลูกจ้างของสถานประกอบการว่า ถูกสมาคมคนพิการและมูลนิธิช่วยเหลือคนพิการ หักหัวคิวโดยจ่ายให้คนพิการได้รับค่าจ้างเพียง 500-3,000 บาท และการปฏิบัติตามมาตรา 33 ดังกล่าวนี้ หากพบว่าสถานประกอบการไม่ได้ให้คนพิการทำงานจริง เช่น ให้นอนอยู่บ้านโดยไม่ต้องมาทำงาน พก.จะตรวจสอบข้อเท็จจริงและหากปรากฏข้อเท็จจริงว่าสถานประกอบการไม่ได้จ้างคนพิการจริงจะเรียกให้สถานประกอบการแห่งนั้นส่งเงินเข้ากองทุนตามกฎหมาย และหากสถานประกอบการดังกล่าวไม่ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พก.จะยื่นฟ้องศาลและบังคับคดีตามประมวลกฎหมายแพ่ง เช่น เดียวกับสถานประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ต่อไป
ประเด็นที่ 2 การส่งเสริมอาชีพคนพิการ ตามมาตรา 35 เกิดการทุจริตในส่วนค่าจ้างวิทยากรและเงินในการจัดฝึกอบรม สร้างความเสียหายถึง 1,500 ล้านบาทต่อปี ข้อเท็จจริงคือกรณีการปฏิบัติตามมาตรา 35 คือการส่งเสริมอาชีพอิสระให้กับคนพิการ(หรือกับผู้ดูแลคนพิการกรณีที่คนพิการเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ คนไร้ความสามารถ หรือทำงานไม่ได้)นั้น กฎหมายกำหนดให้สถานประกอบการยื่นขอดำเนินการกับกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งหากถูกต้องกรมการจัดหางาน ก็จะเห็นชอบและจะแจ้งมาที่ พก.ว่าสถานประกอบการแห่งนั้นได้ดำเนินส่งเสริมอาชีพให้กับคนพิการแล้วจำนวนกี่คน ชื่ออะไรบ้างซึ่ง พก.จะบันทึกเข้าระบบฐานข้อมูลการปฏิบัติตามกฎหมายไว้และหากต่อมามีการร้องเรียนว่ามีการดำเนิน การไม่ถูกต้อง พก.จะส่งเรื่องให้กรมการจัดหางานในฐานะที่เป็นผู้ให้ความเห็นชอบโครงการฝึกงานต่างๆไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งหากไม่เป็นไปตามที่ได้รับความเห็นชอบ พก.จะแจ้งสถานประกอบการส่งเงินเข้ากองทุนแทน ส่วนความเสียหายที่เป็นตัวเงินที่สถานประกอบการได้จ่ายเงินสนับสนุนโครงการไปก่อนนั้นก็เป็นเรื่องที่สถานประกอบการจะไปว่ากล่าวเอากับผู้รับดำเนินการฝึกอบรม ต่อไป
ประเด็นที่ 3 มีการเรียกร้องความเป็นธรรมและยื่นเรื่องที่ทำเนียบรัฐบาลแต่กลับถูกข่มขู่คุกคาม โดยเจรจาให้รับเงิน 20,000 บาท แลกกับการเซ็นต์ยินยอมไม่ดำเนินคดี จึงเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปสนับสนุนหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้น กระทรวง โดย พก.ไม่ได้นิ่งนอนใจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาแนวทางในการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
พร้อมกำหนดแนวทางแก้ไข 1)ที่ผ่านมามีสถานประกอบการที่ไม่ได้จ้างคนพิการจริงและ พก.ตรวจสอบพบว่าได้ดำเนินการแจ้งให้ส่งเงินเข้ากองทุนแล้วจำนวนหลายราย ดังนั้น หากคนพิการ องค์กรคนพิการ หรือบุคคลอื่นใดพบเห็นการกระทำที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย คนพิการถูกเอารัดเอาเปรียบสามารถแจ้งมาที่ พก.โทร. 0 2106 9349-53 เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ต่อไป
2) กรณีที่มีคนพิการร้องเรียนเกี่ยวกับการฝึกอบรมอาชีพนั้น ที่ผ่านมามีการร้องเรียนประมาณ 3 – 4 เรื่อง ซึ่ง พก. ได้ส่งเรื่องให้กรมการจัดหางานตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้มีการดำเนินการตามกฎหมายแล้ว และ 3) พก. ได้มีการให้ความรู้กับสถานประกอบการ โดยการจัดประชุมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติตามกฎหมายการจ้างงานคนพิการที่ถูกต้องทั้งในส่วนกลาง และในส่วนภูมิภาคทุกปี และได้มีการชี้แจงให้องค์กรคนพิการ รวมทั้งคนพิการให้ช่วยกันตรวจสอบว่าสถานประกอบการได้ปฏิบัติตามกฎหมายจริงหรือไม่ และคนพิการได้รับสิทธิตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ในการประชุมสัมมนาขององค์กรคนพิการมาอย่างต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย