ทำเนียบรัฐบาล 15 ก.ย. – นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบวงเงินลงทุนขนาดใหญ่ผ่านการร่วมลงทุนกับเอกชนระหว่างปี 2558-2562 จากวงเงินลงทุน 1.58 ล้านล้านบาท เป็น 1.66 ล้านล้านบาท เพื่อลดภาระเงินลงทุนของรัฐบาล จึงเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนมากขขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการลงทุนแบบพีพีพีเกิดหลายโครงการ โดยขณะนี้มีโครงการบรรจุในระบบพีพีพีวงเงิน 700,000 ล้านบาท เช่น การสร้างรถไฟฟ้า แอร์พอร์ตลิงค์เส้นทางบางนา-สุวรรณภูมิ บริหารงานโดยกรุงเทพมหานคร โครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครสวรรค์ การสร้างศูนย์การแพทย์เฉพาะทางคัดแยกโรคอุบัติขึ้นใหม่
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการพีพีพีได้สั่งการให้คณะกรรมการประชารัฐด้านการดึงดูดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศศึกษารูปแบบการร่วมลงทุนแบบพีพีพีให้ชัดเจน เนื่องจากรัฐบาลมีแผนร่วมลงทุนกับเอกชนหลายโครงการ เพราะมีการศึกษารูปแบบการร่วมลงทุนจากหลายประเทศ พบว่ามีการแบ่งรับความเสี่ยงระหว่างภาครัฐและเอกชนให้มีความเหมาะสม เนื่องจากโครงการลงทุนของไทยจะเน้นไปทางการให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรับภาระเพียงผู้เดียว เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วง เป็นการลงทุนแบบ gross cost รัฐบาลรับภาระผลขาดทุน ส่วนระบบ net cost เอกชนรับภาระเพียงผู้เดียว จึงให้ศึกษาการแบ่งรับภาระความเสี่ยงระหว่างรัฐกับเอกชน และการประกันผลตอบแทนขั้นต่ำ เพื่อสร้างแรงดึงดูดใจให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน
ที่ประชุมรับรายงานจากกระทรวงคมนาคม หลังนายกฯ ใช้มาตรา 44 สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาการเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสีน้ำเงินกับสีม่วงระยะทาง 1 กิโลเมตร ขณะนีร้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการคืบหน้าตามแผน ซึ่งจะครบ 30 วันในวันที่ 16 กันยายนนี้ กระทรวงคมนาคมจึงเตรียมจัดทำเอกสารเจรจากับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (บีอีเอ็ม) ผู้ให้บริการเดินรถภายใต้เงื่อนไขการเก็บค่าโดยสารอัตราเดียวกันทั้งสายเดิมและสายใหม่ การกำหนดระยะเวลาสัมปทานพร้อมกันและใช้สมมติฐานลักษณะเดียวกัน เพื่อเร่งแก้ปัญหาการเชื่อมต่อ 1 กิโลเมตรดังกล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังสั่งการให้ศึกษาแผนการดึงเอกชนร่วมลงทุนในการสร้างมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี วงเงินลงทุนก่อสร้าง 6,400 ล้านบาท แต่ใช้วงเงินลงทุนในการบริหารจัดการซ่อมบำรุงการสร้างที่พักริมทาง สร้างที่พักริมทางตลอดระยะเวลา 30 ปี วงเงิน 32,200 ล้านบาท ขณะที่มอเตอร์เวย์บางประอิน-นครราชสีมา รัฐบาลเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างวงเงิน 8,400 ล้านบาท แต่จะเปิดให้เอกชนร่วมบริหารและร่วมลงทุนสำหรับการซ่อมบำรุงบริหารจัดการ สร้างที่พักริมทาง วงเงิน 35,000 ล้านบาท รวมทั้ง 2 โครงการมูลค่าลงทุน 80,000 ล้านบาท แต่เนื่องจากการเวนคืนของกรมทางหลวงใช้สำหรับสร้างมอเตอร์เวย์ จึงให้ศึกษาแผนให้ชัดเจนเมื่อเมื่อให้เอกชนร่วมลงทุนพัฒนาที่พักริมทางให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ที่ประชุมอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย