เดินหน้าเจรจาเอฟทีไอไทย-ศรีลังกา รอบ 2

นนทบุรี 18 ก.ย. – ไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพการประชุมเอฟทีเอไทย – ศรีลังกา ครั้งที่ 2 เร่งจัดทำความตกลงการค้าเสรีรอบด้าน ทั้งสินค้า บริการ การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ หวังสรุปผลการเจรจาโดยเร็วตามเจตนารมณ์ของผู้นำทั้ง 2 ประเทศ พร้อมตั้งเป้าการค้า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐปี 63


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจรจาเอฟทีเอไทย-ศรีลังกา ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 19 – 21 กันยายน 2561 ณ โรงแรมเรเนซองส์ ราชประสงค์ โดยจะหารือต่อเนื่องจากการประชุมครั้งแรกที่ศรีลังกาเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนี้ทั้ง 2 ฝ่ายจะเริ่มเจรจาข้อบทความตกลงฯ ครอบคลุมทั้งการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การประชุมดังกล่าวจะประกอบด้วยการประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้า (Trade Negotiating Committee) และการประชุมคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง 7 ชุด ได้แก่ 1.คณะทำงานด้านการค้าสินค้า (WG-TIG)  2.คณะทำงานด้านกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า (WG-ROO) 3.คณะทำงานด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (WG-SPS) 4.คณะทำงานด้านการเยียวยาทางการค้า (WG-TR) 5.คณะทำงานด้านการค้าบริการ (WG-TIS) 6.คณะทำงานด้านการลงทุน (WG-Investment) และ 7.คณะทำงานด้านกฎหมาย (WG-LII) โดยจะมีผู้แทนจากส่วนราชการต่าง ๆ เข้าร่วม อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กรมศุลกากร สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักคณะกรรมการกฤษฎีกา กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) 

ทั้งนี้  2 ฝ่ายจะหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับอัตราภาษีและกฎระเบียบทางการค้าควบคู่ไปกับการเจรจาหลักการและรูปแบบการลดภาษีสินค้าระหว่างกัน (Modalities) เพื่อให้การเจรจามีความคืบหน้าและสามารถสรุปผลการเจรจาได้ภายในปี 2563 ตามที่นายกรัฐมนตรีของไทยและประธานาธิบดีศรีลังกาแสดงเจตนารมณ์ไว้ในการประกาศเปิดการเจรจาเอฟทีเอไทย – ศรีลังกา เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 ในช่วงการเดินทางเยือนศรีลังอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีไทย ดังนั้น เชื่อมั่นว่าเอฟทีเอไทย-ศรีลังกาจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนและส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกัน เพื่อบรรลุเป้าหมายการค้าที่ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2563


อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 (ม.ค. – ก.ค.) ศรีลังกาเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยการค้าระหว่างไทยและศรีลังกามีมูลค่า 319.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.7 โดยไทยส่งออกไปศรีลังกา 271.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากศรีลังกา 47.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยศรีลังกาเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพในภูมิภาคเอเชียใต้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเฉลี่ยร้อยละ 6 ต่อปี มีนโยบายส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศที่ทันสมัย และมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งทางทะเล (Marine Hub) สามารถเชื่อมโยงสู่ยุโรป อเมริกาเหนือ และแอฟริกา รวมถึงตั้งอยู่บนเส้นทางยุทธศาสตร์ Belt and Road ของจีน นอกจากนี้ ศรีลังกายังมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอัญมณีและประมง ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมที่ไทยมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษเป็นต้น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ