กรุงเทพฯ 14 ก.ย.-ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 6 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ นครพนม สกลนคร นครนายก ปราจีนบุรี และเพชรบุรี เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับพื้นที่ ให้ความช่วยเหลือประชาชน
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่มในพื้นที่ 20 จังหวัดจากอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม-14 กันยายน 2561 สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 14 จังหวัด ได้แก่ น่าน ลำปาง พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ เชียงราย ลพบุรี พิจิตร ชัยภูมิ สระบุรี หนองคาย อุบลราชธานี และกาฬสินธุ์ ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 6 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,520 ครัวเรือน 55,576 คน แยกเป็น ลุ่มน้ำโขง ที่ จ.บึงกาฬ น้ำในแม่น้ำโขงล้นตลิ่งในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองบึงกาฬ อำเภอบุ่งคล้า อำเภอเซกา และอำเภอพรเจริญ , จ.นครพนม น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีสงคราม อำเภอนาหว้า และอำเภอนาทม , ลุ่มน้ำอูนและลุ่มน้ำสงคราม 1 จังหวัด ได้แก่ จ.สกลนคร น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคำตากล้า อำเภอนิคมน้ำอูน อำเภอพรรณานิคม อำเภออากาศอำนวย และอำเภอบ้านม่วง , ลุ่มน้ำปราจีนบุรี 2 จังหวัด ได้แก่ จ.นครนายก น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครนายก อำเภอบ้านนา อำเภอองครักษ์ และอำเภอปากพลี จ.ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปราจีนบุรี และอำเภอบ้านสร้าง , ลุ่มน้ำเพชรบุรี 1 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแก่งกระจาน อำเภอท่ายาง และอำเภอบ้านแหลม ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีลดลง ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร
นายชยพล กล่าวว่า ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พร้อมกำชับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วเร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ส่วนจังหวัดที่ยังมีสถานการณ์อุทกภัยให้ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัย ควบคู่กับการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ โดยเชื่อมโยงการระบายน้ำในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดอย่างใกล้ชิด เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย