กระทรวงการต่างประเทศ 14 ก.ย.-โฆษกกระทรวงต่างประเทศ ยืนยันไทยไม่มีนโยบายหรือเจตนาคุกคาม ข่มขู่นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน แต่รัฐบาลพัฒนามาตรการทั้งคุ้มครองและปกป้องผู้เสี่ยงต่อการถูกละเมิด
น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีสหประชาชาติจัดไทยอยู่ในกลุ่ม 38 ประเทศที่มีพฤติกรรมน่าละอายในการตอบโต้หรือข่มขู่ผู้ที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนว่า ไทยไม่มีนโยบายหรือเจตนาที่จะคุกคามหรือข่มขู่นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน รัฐบาลไทยตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน จึงได้จัดทำมาตรการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยพัฒนากระบวนการ กลไกและมาตรการต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนให้ได้รับความปลอดภัย สามารถใช้สิทธิและเสรีภาพในการปฏิบัติงานและการดำรงชีวิตได้
“ที่ผ่านมารัฐบาลโดยกระทรวงยุติธรรมได้ดำเนินการหลายประการ อาทิ การแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพัฒนามาตรการการคุ้มครองนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนที่เสี่ยงต่อการถูกละเมิด จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อวางกรอบแนวทางการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน การจัดทำคู่มือสำหรับนักปกป้องสิทธิมนุษยชน การลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์นักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ถูกละเมิดหรือมีความเสี่ยงต่อการถูกละเมิด และการจัดทำรายงานสถานการณ์การละเมิดสิทธิ เสรีภาพและสิทธิมนุษยชนรายงานนายกรัฐมนตรีเป็นรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ยังปรับปรุงพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 โดยบรรจุประเด็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชนเป็นหนึ่งในประเด็นหลักของร่างแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ 4 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในพ.ศ. 2562-2566 รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ได้ตั้งคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานกรรมการด้วย.-สำนักข่าวไทย
