ทำเนียบฯ 13 ก.ย.-รองนายกรัฐมนตรี เปิดงานสัมมนาทางวิชาการประจำปีของการประกาศใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ประจำปี 2561 ย้ำหน่วยงานราชการสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน บนหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และตรวจสอบได้
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานสัมมนาทางวิชาการประจำปีของการประกาศใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ประจำปี 2561 โดยมีหน่วยราชการต่าง ๆ เข้าร่วม อาทิ กรุงเทพมหานคร (กทม.) กรมการค้าต่างประเทศ กรมการขนส่งทางบก เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ของรัฐมีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญของกฎหมายข้อมูลข่าวสารของราชการมากขึ้น รวมถึงให้ทราบถึงสิทธิที่สำคัญของประชาชนในการใช้สิทธิตามกฎหมาย เพื่อตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและการเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายวิษณุ ได้ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ราษฎร์-รัฐ ร่วมใจ สังคมไทยไร้ทุจริต” ว่า ในอดีตการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของรัฐ ประชาชนยังไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างเต็มที่ และการบังคับใช้กฎหมายในอดีตยังไม่ครอบคลุม จึงเกิดเป็นพระราชบัญัติดังกล่าว เพื่อให้เกิดการสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของราชการที่สามารถนำไปสู่การเสริมสร้างบรรยากาศประชาธิปไตย โดยหลักสำคัญของพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว หวังให้เกิดหลักสิทธิมนุษยชน การรับรู้ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ การรับรู้ข่าวสารของส่วนราชการ
“เมื่อประชาชนมีสิทธิที่จะรู้ข้อมูลข่าวสาร รัฐจึงต้องมีหน้าที่เปิดเผยข่าวสาร โดยใช้หลักธรรมาภิบาล หรือหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี คือ ต้องมีความโปร่งใสและสามารถเปิดเผยข้อมูลข่าวสารได้ เพื่อการเข้าถึงข่าวสารของประชาชน ทั้งนี้ การบริหารของราชการ ต้องเป็นระบบ 4.0 คือ การนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการทำงาน การเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร หรือการรวบรวมข้อมูล ต้องมีการเชื่อมโยงกับกระทรวงอื่น รวมถึงรัฐต้องเปิดเผยข้อมูลสาธารณะที่เป็นข้อมูลข่าวสารหรือเป็นประโยชน์แก่ประชาชน จะต้องมีการเปิดเผยให้ประชาชนรับรู้ตามช่องทางต่าง ๆ หากประชาชนต้องการข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับตนเอง รัฐต้องมีข้อมูลข่าวสารและสามารถให้บริการประชาชนได้” นายวิษณุ กล่าว
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับหน่วยงานที่มีศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการโดดเด่น จำนวน 17 หน่วยงาน และมอบเกียรติบัตรให้กับผู้ผ่านการทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ จำนวน 239 ราย และ 2 หน่วยงาน
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการของหน่วยงานต่าง ๆ ที่จัดขึ้นเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในด้านต่าง ๆ.-สำนักข่าวไทย