ศูนย์ราชการฯ10 ก.ย.-สภาการศึกษา จัดงานมหกรรมปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปประเทศ มีครูเเละบุคลากรทางการศึกษาจำนวนมาก รองนายกฯ ย้ำ รัฐให้ความสำคัญกับการศึกษา มีเเนวทางปฏิรูปใน 7 เรื่อง
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานมหกรรมปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปประเทศ ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาและเครือข่ายความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจัดขึ้น เพื่อ เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับแนวทางการปฏิรูปการศึกษาในมิติต่างๆ และสร้างความร่วมมือในการพัฒนาการศึกษาให้กับกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปการศึกษาทั้งระดับนโยบาย ระดับปฏิบัติและผู้บริหาร ซึ่งมีบุคลากรทางการศึกษาให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า รัฐบาลตระหนักและให้ความสำคัญต่อการศึกษาเป็นอย่างมากเพราะประเทศไทยต้องได้รับการพัฒนาอย่างเร่งด่วน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการศึกษาของประเทศให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ สำหรับแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาจะมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อยกระดับคุณภาพของการจัดการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา มุ่งความเป็นเลิศและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และปรับปรุงระบบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพของการใช้ทรัพยากร เพิ่มความคล่องตัวในการรองรับความหลากหลายของการจัดการศึกษาและสร้างเสริมธรรมาภิบาล
สำหรับการปฏิรูปการศึกษามีประเด็นสำคัญ 7 เรื่อง คือ 1.การปฏิรูประบบการศึกษาและการเรียนรู้โดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะเคื่องของ พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ ฉบับใหม่ 2. การปฏิรูปการพัฒนาเด็กและเด็กก่อนวัยเรียน 3. การปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 4.การปฏิรูปกลไกและระบบการผลิต ตัดกรองและพัฒนาผู้ประกอบการวิชาชีพครูและอาจารย์ 5.การปฏิรูปการจัดการเรียนการสอนเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21, 6.การปรับโครงสร้างของหน่วยงานในระบบการศึกษา และ 7. การปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้โดยการพลิกโฉมด้วยระบบดิจิทัล ซึ่งการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่ต้องเร่งขับเคลื่อน เพื่อในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล มีสมรรถนะที่เหมาะสม ซึ่งเจตนารมย์ของรัฐบาลต้องการเพิ่มศักยภาพในกับเด็กในทุกเจเนอเรชั่นเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ
ด้านนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า ยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนเเปลง จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนกฎหมายด้านการศึกษา ซึ่งปัจจุบันมีปรับปรุงพระราชบัญญัติการศึกษา ปี 2542 เเละทำกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ทั้งพระราชบัญญัติปฐมวัยที่ให้ความสำคัญกับเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา พระราชบัญญัติกองทุนเสมอภาคทางการศึกษาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เป็นต้น โดยงานในวันนี้เพื่อสร้างความเข้าใจให้เกิดการปฏิรูปทางการศึกษาไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ภายหลังเเผนปฏิรูปการศึกษาจัดทำเสร็จเรียบร้อย จะมีหน่วยงาน 4 เสาหลักมาคอยกำกับดูแลเพื่อให้การปฏิรูปเป็นไปอย่างมั่นคงเเละมีประสิทธิภาพ ได้แก่ เสาหลักด้านวิชาการ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมาตรวจสอบเเละประเมินผลอย่างเข้มข้น ด้านข้อมูลสารสนเทศ มีบิ๊กดาต้าข้อมูลของเด็กทั้งหมด ด้านการมีส่วนร่วม มีสมัชชาการศึกษาเข้ามาส่วนร่วมเเละด้านการขับเคลื่อนเเละติดตาม .-สำนักข่าวไทย