น้ำท่วมนครศรีฯ ไหลลงพื้นที่ท้ายน้ำ ส้มโอทับทิมสยามเสี่ยงยืนต้นตาย

นครศรีธรรมราช 7 ธ.ค.-สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.นครศรีธรรมราช ล่าสุดน้ำได้ไหลลงพื้นที่ท้ายน้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ปากพนัง ทำให้ระดับน้ำยังสูง และเริ่มส่งผลกระทบต่อพืชผลการเกษตร โดยเฉพาะส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม ที่สร้างรายได้ให้กับพื้นที่ปีละนับร้อยล้านบาท

สวนส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม ซึ่งเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อของ จ.นครศรีธรรมราช เป็นสินค้าบ่งชื้ทางภูมิศาสตร์ของ อ.ปากพนัง ที่ส่งออกไปจำหน่ายยังหลายประเทศ กำลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมขังที่กินเวลายาวนานกว่าสัปดาห์

อ.ปากพนัง มีพื้นที่ปลูกส้มโอพันธุ์ทับทิมสยามกว่า 2,000 ไร่ บางจุดมีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร และระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น จากมวลน้ำที่ไหลลงมาจากเทือกเขาบรรทัด อ.ร่อนพิบูล อ.พระพรหม และ อ.เฉลิมพระเกียรติ และอ.เมือง บางส่วน ทำให้ผลส้มโอเกิดโรคระบาด ผลร่วงหล่น ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด และกำลังเป็นความกังวลใจของเกษตรกรที่ไม่สามารถระบายน้ำออกจากพืนที่ได้ ซึ่งจะทำให้ต้นส้มเกิดโรครากเน่าและยืนต้นตายในไม่ช้า ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้เกษตรกรหลายสิบล้านบาท

อ.ปากพนัง เป็นพื้นที่ลุ่มรองรับน้ำ ก่อนระบายลงสู่ทะเล ซึ่งขณะนี้มีน้ำท่วมขังเต็มพื้นที่ ทั้ง 11 ตำบล 141 หมู่บ้าน และชาวบ้านได้รับผลกระทบตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่บ้านเกาะทวด ม.3 ต.เกาะทวด ชาวบ้านกว่า 240 หลังคาเรือน ต้องถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เช่นที่บ้านของป้าหนูกลิ่น ซึ่งมีสมาชิกอาศัยอยู่ในบ้านที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กถึง 12 คน ซึ่งขณะนี้เริ่มขาดแคลนอาหาร น้ำ และอยากให้ทางการให้ความช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งวันนี้เจ้าหน้าที่จากอำเภอปากพนังออกสำรวจความเดือดร้อน และให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ โดยเน้นให้ทุกคนมีอาหารรับประทาน ไม่ป่วย และสามารถเข้าถึงหน่วยงานภาครัฐได้เต็มที่

ผู้ใหญ่บ้านบ้านเกาะทวด บอกว่า ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต้องการความช่วยเหลือ ทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่ม และห้องน้ำ รวมทั้งอยากให้ทางการเร่งติดเครื่องผลักดันน้ำระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว เนื่องจากปีนี้สถานกาณรณ์น้ำท่วมรุนแรง และคาดว่าจะมีน้ำท่วมขังนานร่วมเดือน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียและโรคระบาดตามมา

ฝนที่ลดปริมาณลงแล้วในหลายพื้นที่ แต่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกยังคงเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำต่อไปอีก เนื่องจากกำลังจะมีกลุ่มฝนอีกระลอก ที่อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในพื้นที่ได้.-สำนักข่าวไทย