สั่งพักราชการ “ตร.สภ.ปะลุกาสาเมาะ”ยิงชาวบ้านเจ็บ 2

กรุงเทพฯ 9 ก.ย.- สั่งพักราชการแล้ว ส.ต.ท.สภ.ปะลุกาสาเมาะ จว.นราธิวาส ขับรถประกบยิงชาวบ้านบาดเจ็บ ผู้บังตับบัญชาแจงมีประวัติรักษาอาการโรคทางจิตเวช


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยกรณี ตำรวจยิงชาวบ้าน ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในท้องที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับรายงาน จาก ภ.จว.ปัตตานี ว่าเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2561 เวลาประมาณ 13.20 น. พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสื่อสารว่า เกิดเหตุรถเฉี่ยวชนกันและตกลงข้างทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนเพชรเกษมสาย 42 (ขาเข้าเมืองปัตตานี) หมู่ที่ 4 ต.ตุยง อ. หนองจิก จ. ปัตตานี พนักงานสอบสวนพร้อมพวกจึง เดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุพบ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ป้ายทะเบียน ฆฮ ๖๐๒๔ กรุงเทพมหานคร โดยมี ส.ต.ท.ธีรภัทร ถนิมพันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะลุกาสาเมาะ จว.นราธิวาส ผู้ขับขี่ติดอยู่ในรถยนต์คันเกิดเหตุ และพบรถจักรยานยนต์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ทราบว่ามี นายรุสลัน หะยียะพา อายุ ๒๕ ปี เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอับดุลเราะห์มัน หะมะ อายุ ๒๓ ปี นั่งซ้อนท้าย โดยทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ พลเมืองดีนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองจิก จึงได้บันทึกรายละเอียด ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ ทำแผนที่พอสังเขป ไว้แล้ว และเดินทางไปยังโรงพยาบาลหนองจิก 

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถทั้งสองคันขับมาจากสี่แยกดอนยางมุ่งหน้าไปทาง อ.เมืองปัตตานี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ส.ต.ท.ธีรภัทรฯ ได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวขึ้นมาประกบรถจักรยานยนต์ที่นายรุสลันฯ เป็นผู้ขับขี่ และนายอับดุลเราะห์มันฯ จากนั้น ส.ต.ท.ธีรภัทรฯ ได้ใช้อาวุธปืนยิงไปทางรถจักรยานยนต์ เป็นเหตุให้กระสุนถูกนายรุสลันฯ บริเวณสะโพก และถูกนายอับดุลเราะห์มันฯ บริเวณขาขวา ทำให้รถ ทั้งสองคันเสียหลักตกลงข้างทางชนกับเสาไฟฟ้าได้รับความเสียหาย และพลเมืองดีได้นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหนองจิก


 หลังเกิดเหตุ ส.ต.ท.ธีรภัทรฯ เข้าพบพนักงานสอบสวน โดยทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหา ในข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น ส.ต.ท.ธีรภัทรฯ ให้การรับว่าใช้อาวุธปืนประจำกายยิงออกไปจริง โดยเข้าใจว่านายรุสลันฯและนายอับดุลเราะห์ฯผู้บาดเจ็บ เป็นคนร้าย พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาฝากขังต่อศาลแล้ว ซึ่งจากการสอบถามไปยังผู้บังคับบัญชา ที่ต้นสังกัดของผู้ต้องหาทราบเบื้องต้นว่า มีประวัติรักษาตัวเกี่ยวกับอาการโรคทางจิตเวช ที่ รพ.จิตเวชสงขลา ในส่วนรถยนต์ที่ผู้ต้องหาขับขี่ขณะเกิดเหตุตรวจพบปลอกกระสุนปืน และร่องรอยกระสุนปืนได้แจ้งไปยัง พฐ.จังหวัดยะลาเพื่อตรวจหาพยานหลักฐาน วิถีกระสุนและจะได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป ต่อมาในวันที่ 6 กันยายน 2561เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ฐมฌ์พงศ์ เพ็ชร์พิรุณ ผกก.สภ.หนองจิก ได้เข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย พร้อมมอบกระเช้าและเงินบำรุงขวัญ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้บาดเจ็บและญาติ ณ รพ.ปัตตานี จว.ปัตตานี ขณะที่ พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้สั่งพักราชการ ส.ต.ท.ธีรภัทรฯ และตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง แล้ว 

คดีนี้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายแล้ว สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง และรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ขณะนี้รอผลการตรวจบาดแผลจากแพทย์ และผลตรวจวัตถุพยานจากพิสูจน์หลักฐาน ในส่วนของเรื่องทางวินัย คณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ และกรอบเวลา .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

“พิธา-ทักษิณ” ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

“พิธา” ลงพื้นที่ตลาดต้นลำไย จ.เชียงใหม่ พบปะพี่น้องประชาชน ด้านพรรคเพื่อไทย “ทักษิณ” ขึ้นเวทีแนะนำ “พิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง” ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

ไตรภาคีเคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.68

ไตรภาคี เคาะค่าจ้าง 400 บาท ลูกจ้าง 4 จังหวัด 1 อำเภอ “ภูเก็ต-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-อ.เกาะสมุย” มีผล 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าจ้าง 7-55 บาท 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้วันละ 337 บาท

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น