ปล่อยตัวชั่วคราว “เบนซ์ เรซซิ่ง”

กรุงเทพฯ 7 ก.ย.-ปล่อยตัวชั่วคราว เบนซ์ เรซซิ่ง ด้วยหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดให้ใส่กำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ เจ้าตัวก้มกราบมารดาทันทีที่ออกจากเรือนจำ ยืนยันความบริสุทธิ์เตรียมต่อสู้คดีต่อจนถึงที่สุด


นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฟอกเงินถูกปล่อยตัวชั่วคราว ออกจากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง หลังศาลให้ประกันด้วยหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดให้ใส่กำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ หรือ กำไล EM และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลโดยมีมีมารดา พี่ชาย เพื่อน และทีมทนายความมารับให้กำลังใจด้วย 


ทันทีที่ปล่อยตัวเป็นอิสรภาพ เบนซ์ได้ก้มลงกราบเท้ามารดา พร้อมขอบคุณครอบครัวที่เป็นกำลังใจและขอบคุณศาล เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติกับตนเองอย่างดีระหว่างถูกคุมขัง ไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆ ได้รับการปฏิบัติเหมือนนักโทษคนอื่น

นายอัครกิตติ์ กล่าวว่า สิ่งแรกที่จะทำคืออยากทานอาหารฝีมือแม่ ส่วนภรรยา ยืนยันความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิม ซึ่งวันนี้ที่ไม่มารับเพราะติดงานที่รับไว้ก่อนหน้านี้ แต่คืนนี้จะเดินทางไปพบกับภรรยาและลูก ขณะการต่อสู้คดียืนยันต่อสู้ให้ถึงที่สุด เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ และขอบคุณศาลอีกครั้งที่ให้ประกันตัวซึ่งจะทำให้ตนได้หาพยานหลักฐานต่อสู้คดีได้สะดวกมากขึ้น ส่วนความสัมพันธ์กับบอยไม่ได้โกรธเคือง ยังเหมือนเดิมมีความเป็นเพื่อนและลูกค้า ส่วนบัญชีที่มีการโอนเงินเข้าออกเป็นเรื่องปกติ เพราะทำธุรกิจด้วยกัน ทั้งนี้ยังกล่าวถึงการสวมกำไลอีเอ็มไม่ส่งผลการใช้ชีวิตประจำวัน สามารถไปได้ทั่วไทย ยกเว้นขึ้นเครื่องบินไม่ได้จะส่งสัญญาณรบกวน แต่อาจเป็นปัญหาต่อการแข่งรถ เพราะตนจะกลับไปแข่งรถเหมือนเดิม 


ด้านนางสุพรเพ็ญ วรโรจน์เจริญเดช มารดากล่าวขอบคุณศาลและดีใจเฝ้ารอวันนี้มานานที่จะได้เจอหน้าลูก ระหว่างให้สัมภาษณ์ ทั้งเบนซ์และแม่มีน้ำตาคลอ จากนั้นได้ขึ้นรถหรูออกไป

นายสมโพธน์ คำทอง ทนายเบนซ์ เปิดเผยว่า ทางเบนซ์จะยื่นอุทธรณ์คดีต่อ โดยขอดูคำพิพากษาก่อนว่าจะพิจารณาต่อสู้ในประเด็นใด ซึ่งที่ศาลพิพากษาจำคุก 8 ปี ไม่มีเหตุบรรเทาโทษ เหมือนจำเลยอีก 2 คน เนื่องจากเบนซ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาและต่อสู้คดีมาโดยตลอด 

ทั้งนี้ นายอัครกิตติ์ถูกนำตัวมาคุมขังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม 2560 ประมาณ 1 ปี 3 เดือน  ในคดีร่วมกันฟอกเงิน จากขบวนการค้ายาเสพติดนายณัฐพล นาคคำ หรือบอย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 40% กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก