กรุงเทพฯ 6 ก.ย. – วสท.เสนอ 5 ข้อสร้างเทอร์มินอล 2 สนามบินสุวรรณภูมิ หลังพบแบบก่อสร้างหลายจุดมีปัญหาด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะการใช้ไม้ตกแต่งอาคารผู้โดยสาร
นายเกชา ธีระโกเมน อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เปิดเผยว่า ได้เห็นภาพและข้อมูลของแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิผ่านสื่อมวลชนแล้ว พบว่า มีการใช้ไม้จำนวนมากเป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบ แต่ยังไม่เห็นผังอาคารส่วนอื่น ๆ โดยเห็นว่า การใช้ไม้จำนวนมากมาเรียงประกอบกันที่หัวเสาและเพดานจะมีความเสี่ยงอันตรายหากเกิดไฟไหม้ เพราะทำให้ติดไฟได้รวดเร็วและมีความเสียหายรุนแรง ขณะที่ระบบดับเพลิงที่มีตามมาตรฐานจะไม่สามารถรองรับขนาดไฟที่ลุกขึ้นได้ ขณะเดียวกันตามมาตรฐานสากล NFPA101 ของสมาคมป้องกันอัคคีภัยแห่งชาติสหรัฐอเมริกาไม่อนุญาตให้ใช้ไม้ ซึ่งเป็นวัสดุลามไฟ (ประเภทC) ในการตกแต่งอาคารชุมชนคนจำนวนมาก อย่างเช่นอาคารผู้โดยสารของสนามบิน นอกจากนี้ การใช้ไม้ยังมีปัญหาเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย การทำความสะอาดและการซ่อมบำรุง
ด้าน ผศ.ดร.ชูชัย สุจิวรกุล คณะอนุกรรมการมาตรฐานอาคารคอนกรีต วสท. กล่าวว่า ตามมาตรฐานสากล และมาตรฐานของกรมโยธาธิการและผังเมืองกำหนดให้อาคารสาธารณะและอาคารขนาดใหญ่พิเศษ เช่น อาคารผู้โดยสารสนามบิน จำเป็นต้องใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพมากกว่าปกติ โดยเฉพาะสมบัติด้านอัคคีภัย วัสดุก่อสร้างโครงสร้างอาคารต้องมีคุณสมบัติทนไฟ โดยเสาและคาน ต้องมีอัตราการทนไฟไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง หรือบริเวณพื้น ต้องมีอัตราการทนไฟไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง แต่สำหรับการใช้ท่อนไม้มาเรียงต่อกันเหมือนที่เห็นในแบบของอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ห่วงว่าการใช้ไม้มาทำโครงสร้าง หรือเป็นวัสดุตกแต่งจะไม่เหมาะสม เพราะไม้มีอัตราการทนไฟต่ำ ควรใช้วัสดุอื่นที่มีอัตราการทนไฟสูงมาแทนไม้
นายธเนศ วีระศิริ นายก วสท. กล่าวว่า กรณีปัญหาการออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 สนามบินสุวรรณภูมินั้น วสท.ยังไม่เห็นรายละเอียดแบบก่อสร้างจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น เบื้องต้น วสท.ทำได้เพียงเสนอแนะแนวทางการออกแบบและก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสาร หรือเมกะโปรเจคต่าง ๆ จะต้องประกอบด้วย 5 เรื่องหลัก คือ 1.โครงการควรมุ่งการออกแบบเพื่อบริหารจัดการมากกว่าการให้ความสำคัญกับการตกแต่ง 2.การออกแบบและวัสดุที่ใช้ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนและผู้ใช้บริการเป็นหลัก 3.ควรนำเทคโนโลยี เช่น IoT, Big Data และ AI มาใช้บริหารจัดการอาคารผู้โดยสาร เพื่อป้องกันความแออัดในอนาคต 4.หากจำเป็นต้องจัดการประกวดแบบครั้งใหม่ ควรเชิญผู้มีความรู้หลายด้านมาระดมความเห็น เพื่อกำหนดกรอบสำคัญของการประกวดแบบให้ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้โดยสาร เช่น การลำเลียงผู้โดยสารและสัมภาระ และ 5.คณะกรรมการพิจารณาตัดสินแบบควรมีผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม บริหารทรัพยากรอาคาร พลังงานและสิ่งแวดล้อมด้วยร่วมพิจารณาด้วย
ทั้งนี้ วสท.ระบุว่าการออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ไม่ได้มีการเชิญ วสท.เข้าไปมีส่วนพิจารณาแบบ และ วสท.คงไม่ก้าวล่วงในการพิจารณาของ ทอท. หากไม่ได้รับเชิญ แต่หาก ทอท.ต้องการให้ วสท.เข้าไปช่วยตรวจสอบ ก็พร้อมให้ความร่วมมือ.-สำนักข่าวไทย