รัฐสภา 6 ก.ย.-สมชายชี้สื่อต้องปลอดจากอำนาจรัฐ แต่ปัจจุบันมีนัการเมืองหนุนสื่อเทียม ขณะที่กรธ.แนะสนช.พิจารณาออกกฎหมายคุ้มครองสิทธิเสรีภาพบุคคล
ประชาสัมพันธ์ สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการของสื่อมวลชน พร้อมปาฐกถาพิเศษเรื่องบทบาทของสื่อมวลชนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 โดยนายสมชาย แสวงการ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กล่าวว่า สื่อมวลชนต้องปลอดจากอำนาจรัฐ แต่ที่ผ่านมาการทำงานของสื่อมีทั้งสื่อแท้และสื่อเทียม โดยเฉพาะสื่อเทียมที่เข้ามามีบทบาทต่อการชุมนุมทางการเมืองและพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง ซึ่งหลักจริยธรรมแล้วไม่สามารถทำได้ แต่กฏหมายยังไปไม่ถึง แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะเขียนว่านักการเมืองจะเป็นเจ้าของสื่อไม่ได้ก็ตาม
“เมื่อกลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลังย่อมทำให้การทำหน้าที่และจรรยาบรรณของสื่อเปลี่ยนแปลง ซึ่งปัจจุบันนอกจากมีสื่อเทียมแล้ว ยังมีนักรบหน้าจอบนมือถือกว่า 110 ล้านหมายเลข เมื่อสื่อสารอินเตอร์เน็ตเข้าถึงหมู่บ้าน ทุกคนก็เป็นนักรบได้ ที่ผ่านมาสื่อมีความผิดพลาดในการนำเสนอข่าว เพราะบางครั้งเสนอเพียงครึ่งเดียว ขณะเดียวกันยังมีนักเล่าข่าวจำนวนมาก เนื่องจากบุคลิกคนไทยชอบจำ และเมื่อการนำเสนอเปลี่ยนข้อความเพียงนิดเดียว จึงกลายแป็นบิดเบือนและทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้” นายสมชาย กล่าว
นายภัทระ คำพิทักษ์ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) กล่าวว่า อยากให้สนช.พิจารณาออกกฎหมายคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและต้องไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เช่น กรณีของอังกฤษออกกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพที่มีความยาวถึง 300 มาตรา ซึ่งอยากให้ทางรัฐสภาให้ความสนใจเรื่องดังกล่าว เพราะทั้ง 300 มาตราคุ้มครองสิทธิของบุคคลตั้งแต่เกิดจนตายว่าสิ่งใดที่ทำได้และทำไม่ได้
“แต่อังกฤษก็มีข้อยกเว้นให้เพียง 3 กรณี 1.ทนายที่จะไปแสวงหาข้อมูล 2.สื่อมวลชนที่จะไปรายงานข่าว และ 3.หน่วยข่าวกรองทั้งหลาย แต่ขณะนี้กฎหมายไทยยังไม่ออก ทั้งที่ก่อนหน้านี้พยายามที่จะทำกฎหมายรองรับสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลโดยเฉพาะสื่อที่เสนอข่าวใต้เตียงดารา เสนอแต่เรื่องการหลับนอน ดังนั้น หากมีจุดหมายเรื่องสิทธิเสรีจะทำให้เกิดการเคารพนับถือต่อกัน” นายภัทระ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
