ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา (BITEC) 6 ก.ย.- องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน 6 กันยายน ภายใต้แนวคิด “คนไทย ตื่นรู้สู้โกง” ด้านประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน หวังทุกภาคส่วนไม่นิ่งเฉยต่อการทุจริต “ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม” ยกพระบรมราโชวาท รัชกาลที่ 9 ช่วยสร้างคนดีให้บ้านเมืองแม้เป็นเรื่องยากและยาว ก็ต้องทำเพราะเป็นหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (6 ก.ย.) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน ซึ่งกำหนดให้ตรงกับวันที่ 6 กันยายนของทุกปี และจัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2554 โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “คนไทย ตื่นรู้สู้โกง” ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา (BITEC) มีองค์กรภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชน เข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านคอร์รัปชัน อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นต้น
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน กล่าวเปิดงานและแสดงวิสัยทัศน์ ตอนหนึ่งว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 7 ปี ทุกคนทำงานหนัก เพื่อผลักดันให้การโกงทุกรูปแบบเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ พร้อมปลุกกระแสให้คนไทยทุกคน ไม่อดทนต่อการโกงกินและลุกขึ้นมาตื่นรู้สู้โกง ซึ่งการคอร์รัปชันยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังของประเทศไทย แต่สามารถจัดการให้หมดไปได้ เพื่อผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมส่วนรวมของประเทศ และเพื่อลูกหลานในวันข้างหน้า
“ที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่กระแสการต่อต้านคอร์รัปชันได้แทรกซึมไปยังชีวิตของคนไทยในทุกคน ปัจจุบันคนไทยมากขึ้นมีข้อมูลการร้องเรียนข้อมูลการทุจริตมากขึ้น อีกทั้งสื่อมวลชนก็มีการรายงานการทุจริตอย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เคยกล่าวไว้ว่า บ้านเมืองวุ่นวายเพราะคนดีเพิกเฉยต่อการกระทำของคนชั่ว ดังนั้นการเห็นการกระทำที่โกงกินแล้วนิ่งเฉย คือการปล่อยให้บ้านเมืองล่มสลาย” นายประมนต์ กล่าว
นายประมนต์ กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวเชื่อว่าสังคมไทย เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น ต้องมีสิ่งที่เข้ามาหลอมรวมน้ำหนึ่งใจเดียว ก็จะเกิดปรากฏการณ์ที่ปรากฏไปทั่วโลก เช่นกรณีการระดมการช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี ออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ที่สะท้อนให้เห็นถึงความงดงามของการช่วยเหลือซึ่งกันและกันของคนไทย และหวังว่าในปีต่อ ๆ ไปจะเห็นการไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งในวงการข้าราชการ นักการเมือง และในสังคม ต้องไม่นิ่งเฉย ไม่ยอมให้การทุจริตเกิดขึ้นในทุก ๆ องค์กร
ด้านศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ปาถกฐาพิเศษ เรื่อง “ปลุกพลังคนไทยสู้โกง” ว่า สิ่งสำคัญที่สุด คือ การปลูกฝังธรรมะในใจตั้งแต่วัยเด็ก เริ่มตั้งแต่ในบ้าน พ่อ-แม่ ต้องปลูกฝังลูกหลาน ให้คนรุ่นต่อไปเป็นคนดี ถึงแม้จะยากจะยาว ก็ต้องทำเพื่ออนาคต เปรียบได้กับการปลูกต้นไม้ ต้นเริ่มดูแลต้นกล้า อบรมสั่งสอนเพื่อบ่มเพาะนิสัย ส่งผลให้รากแก้วมั่นคง ออกกิ่งก้านสาขาสวยงาม ส่วนที่ทำงาน ผู้บริหาร หัวหน้างาน ต้องช่วยปลูกฝังอบรมลูกน้อง เพราะเมื่อคนเรารู้จักความละอาย ก็สามารถยับยั้งใจได้ และต่อให้มีความรู้สูง แต่ขาด หิริโอตตัปปะ คือ ไม่มีความละอายต่อบาป ก็จะนำความรู้ไปใช้ในทางไม่ชอบ สร้างความเดือนร้อนให้สังคม
“ขอยกพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานแก่องคมนตรี เมื่อปี 2555 ว่า ขอให้ช่วยกันสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง การสร้างคนดีเป็นเรื่องยากและยาว แต่ก็ต้องทำ ขอให้ถือเป็นหน้าที่” ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ เกษม กล่าว
จากนั้นเป็นพิธีมอบประกาศยกย่องบุคคลตัวอย่าง คนไทยตื่นรู้สู้โกง 7 รางวัล ได้แก่ 1.น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม ผู้เปิดโปงการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่ง 2.น.ส.ณัฐกานต์ หมื่นพล ผู้เปิดโปงการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่ง 3.นายปรารภ เหมทานนท์ ผู้เปิดโปงการทุจริตภาครัฐไม่น้อยกว่า 270 กรณี หนึ่งในนั้นคือปรากฏการณ์ขนมจีนคลุกน้ำปลา 4.พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ข้าราชการไทยตัวอย่างผู้กวาดล้างทุจริตเงินทอนวัดที่เชื่อมโยงระหว่างข้าราชการกับพระชั้นผู้ใหญ่จำนวนมาก 5.นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้กวาดล้างขบวนการโกงเงินช่วยเหลือการศึกษากองทุนเสมาเพื่อพัฒนาชีวิต 6.น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ข้าราชการระดับผู้นำองค์กรที่ลงมือทำเป็นแบบอย่างด้วยความมุ่งมั่นเพื่อการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ให้เป็นองค์กรที่เข้มแข็ง ปลุกพลังองค์กรให้ตื่นรู้สู้โกง 7.น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ข้าราชการผู้เปลี่ยนแปลงระบบบริการประชาชนเกี่ยวกับคดีการยึดทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากถึง 3 แสนล้านบาท ให้รวดเร็ว ใช้เวลาน้อย ด้วยความโปร่งใส กำจัดผลประโยชน์ที่เกิดจากการรีดไถรับส่วยสินบนของข้าราชการ.-สำนักข่าวไทย