นนทบุรี 3 ก.ย. – กระทรวงพาณิชย์ระบุน้ำมันแพงดันเงินเฟ้อ ส.ค.สูงขึ้นร้อยละ 1.62 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 ตามราคาน้ำมันและอาหาร ทั้งปียังเป็นไปตามกรอบร้อยละ 0.8-1.6
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรืออัตราเงินเฟ้อเดือนสิงหาคม 2561 พบว่า อัตราเงินเฟ้อมีการเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นร้อยละ 1.62 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 เป็นผลมาจากการสูงขึ้นของหมวดผักสดร้อยละ 0.31 เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลสารทจีน ทำให้สินค้าของสดบางรายการราคาสูงขึ้น
ทั้งนี้ ถือเป็นการปรับตัวสูงขึ้นจากหมวดพลังงานที่มีการขยายตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 21 ที่ร้อยละ 9.05 เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจเริ่มมีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง และยังมีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อ คือ กำลังซื้อของภาคประชาชนดีขึ้นสะท้อนจากการจัดเก็บรายได้ในส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ที่ขยายตัวสูงขึ้นร้อยละ 18.2 การบริโภคของภาคเอกชนมีการปรับตัวดีขึ้น และรายได้ภาคเกษตรมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้ปรับตัวดีขึ้นด้วย
สำหรับอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 1.12 ซึ่งแนวโน้มของอัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 0.8-1.6 โดยยังมีปัจจัยที่ต้องจับตา คือ ต้นทุนการผลิตสินค้าบางชนิดได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น รวมทั้งค่าเงินบาทที่ยังมีโอกาสผันผวน ประกอบกับอัตราค่าจ้างเฉลี่ยเริ่มมีสัญญาณขยายตัวในอัตราที่ช้ากว่าเงินเฟ้อ ทำให้เงินเฟ้อระยะต่อไปจะค่อย ๆปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนี้ มาจากมาตรการกระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐในโครงการสำคัญที่ต้องเร่งรัดเบิกจ่ายในช่วงที่เหลือของปี รวมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งในประเทศและตลาดโลก ทำให้ความต้องการของภาคเอกชนยังอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ จึงคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั่วไปน่าจะยังอยู่ในกรอบที่วางไว้ ส่วนเงินเฟ้อไตรมาส 4 น่าจะอยู่ที่รัอยละ 1.5 มาจากปัจจัยด้านอาหารและน้ำมันยังอยู่ในช่วงที่ต้องเฝ้าระวัง แม้จะไม่ได้ขยับตัวสูงมาก แต่ราคาตลาดโลกยังอยู่ในภาะที่ผันผวนและเท่าที่รับรายงานทางกรมการค้าภายในอยู่ระหว่างติดตามราคาสินค้าโดยรวม เพื่อไม่ให้มีการปรับราคาสูงเกินจริง ส่วนการเพิ่มเงินสดในส่วนของบัตรสวัสดิการของรัฐอีก 100 บาทนั้น จะไม่เป็นการเพิ่มของราคาสินค้าให้ปรับเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย