ไล่ออกครูหื่นลวนลามเด็กเขตคลองเตย

ดินแดง 3 ก.ย.-กทม.ไล่ออกครูหื่นย่านคลองเตย ลวนลามเด็ก พร้อมวางมาตรการเข้มหากเกิดในลักษณะเช่นนี้ ให้ตั้งสมมติฐานผิดวินัยร้ายแรง และเอาผิดผู้บริหารโรงเรียน 


นายเกรียงยศ สุดอาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงถึงกรณีนายทิมทอง ข้าราชการครูโรงเรียนวัดสะพาน สังกัด กทม. มีพฤติกรรมกระทำอนาจารเด็กนักเรียน มาตั้งแต่ปี 2556 โดยคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร(กก.กทม.) มีมติเอกฉันท์ ให้ไล่ออกจากราชการ เพราะถือเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่า เป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และฐานกระทำการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เรียน หรือนักศึกษา ไม่ว่าจะอยู่ในความดูแลของตนหรือไม่ ซึ่งเป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาปี 2547           


นายเกรียงยศ กล่าวต่อว่า การพิจารณาเอาผิดโทษทางวินัย จากเดิมจะมีกรอบพิจารณา 30 วัน แต่กรณีดังกล่าวยอมรับว่า เกิดความล่าช้า เนื่องจากต้องรอการสอบปากคำพยาน ซึ่งต้องใช้เวลาในการพิจารณาอย่างรอบด้าน แต่ตนได้สั่งการหากในอนาคตเกิดกรณีลักษณะเช่นนี้ ให้คณะกรรมการตั้งสมมุติฐานเอาผิดทางวินัยร้ายแรง เพื่อเร่งรัดกระบวนการสอบสวนให้เร็วที่สุด 

สำหรับการดูแลความปลอดภัยนักเรียนสังกัด กทม. มีระเบียบข้อปฏิบัติชัดเจน ที่ระบุว่าการปฏิบัติตัว ระหว่างครูกับนักเรียน ต้องระวังการถูกเนื้อต้องตัวเด็ก แต่พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล ดังนั้นจึงต้องกำชับให้ครูปฏิบัติตนอย่างถูกต้อง และ กทม.จะออกมาตรการให้ผู้บริหารสถานศึกษา ต้องดูแลส่องส่องครูอย่างเข้มงวด หากมีการกระทำที่สุ่มเสี่ยง ผู้บริหารสถานศึกษาจะมีความผิดร่วมด้วย ส่วนนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ เบื้องต้นจะเชิญนักเรียนและผู้ปกครองมารับทราบข้อมูล และดูแลด้านสภาพจิตใจ โดยทีมสหวิชาชีพทำงานร่วมกับจิตแพทย์ 

นายเกรียงยศ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ได้กำชับผู้อำนวยการโรงเรียน และผู้อำนวยการเขต ให้ดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด ซึ่งผู้อำนวยการเขต ต้องทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์นักเรียน เป็นผู้ดูแลสวัสดิภาพ ความปลอดภัย และสภาพจิตใจของนักเรียนเป็นหลัก ส่วนกรณีผู้ปกครองที่เกิดกรณีลักษณะดังกล่าว และไม่กล้าร้องเรียนกับทางโรงเรียน ให้เข้าแจ้งเรื่องร้องทุกข์ได้ที่สำนักงานเขตในแต่ละพื้นที่ ซึ่งผู้อำนวยการเขตต้องเข้าดูแลอย่างด่วนที่สุด ซึ่งตนยืนยันว่า กทม.ให้ความสำคัญกับนักเรียน โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัย ซึ่งพยายามวางระบบการดูแลอย่างรอบด้านมากที่สุด โดยจากนี้ตนจะสุ่มพื้นที่สุ่มตรวจโรงเรียนต่างๆ 


ทั้งนี้ ปัจจุบัน กทม.มีโรงเรียนในสังกัดรวม 437 แห่ง โดยมีสัดส่วนครูชาย 5,209 คน หรือร้อยละ 36 และครูหญิง 9,250 คน หรือร้อยละ 64 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่