ไทยทำลายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ลอตใหญ่กว่า 2 ล้านชิ้น

ปตอ.1 พัน.7 3 ก.ย.- “พล.อ.ประวิตร” กดปุ่มทำลายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญากว่า 2 ล้านชิ้น มูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญและเดินหน้าปราบปรามอย่างจริงจัง


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีเผาทำลายของกลางละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว ณ ลานอเนกประสงค์กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 7 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 (ปตอ.1พัน.7) มีของกลางที่รวบรวมได้จากทั่วประเทศทั้งสิ้น 2,101,347 ชิ้น มูลค่ารวม 1,374 ล้านบาท อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋า เข็มขัด รองเท้า นาฬิกาโทรศัพท์มือถือ แผ่น CD/VCD แว่นตา เครื่องสำอาง หมวก ผ้าห่ม เครื่องมือช่าง และล้อแม็กซ์รถยนต์ 


พล.อ.ประวิตร กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและพัฒนาระบบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการรณรงค์สร้างจิตสำนึก ให้ประชาชนเคารพสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา การดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับการปรับสถานะคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐอเมริกา มาตรา 301 พิเศษ จากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ เป็นประเทศที่ต้องจับตามอง ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา

“รัฐบาลยังคงปฏิบัติตามแผนในการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง โดยเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปราม ไม่ให้มีการจำหน่ายทรัพย์สินสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งได้ปรากฏผลอย่างเป็นรูปธรรมว่า การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามีปริมาณลดลง ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมมือกันในการปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งในส่วนของการผลิต การจำหน่าย การนำเข้า และการส่งออกอย่างจริงจัง จนนำมาสู่การทำลายของกลาง คดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้วในวันนี้” พล.อ.ประวิตร กล่าว

พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า การทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 และเป็นลอตใหญ่ที่สุด สำหรับพื้นที่ตลาดชายแดน เจ้าหน้าที่ได้กวาดล้างอย่างต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่ามีบางส่วนเล็ดลอด แต่ก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่กวดขันจับกุม ยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับขบวนการค้าสินค้าผิดกฎหมาย หรือ ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างแน่นอน .- สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.บังคับใช้ 7 มาตรการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง

ผบ.ตร. บังคับใช้ 7 มาตรการเข้มข้น แก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง ถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำชัดให้เห็นผลภายใน 7 วัน หากพบเจ้าหน้าที่มีเอี่ยวหรือบกพร่อง ฟันเด็ดขาด

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

ตร.สอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “ปิดจบสยบ Fiwfans”

ตำรวจสอบสวนกลาง “เปิดปฏิบัติการปิดจบสยบ Fiwfans (ฟิวแฟน)” เว็บไซต์ค้ากามเด็กออนไลน์ จับแอดมิน 5 ราย ดำเนินคดี พบในรอบ 4 ปี มีหญิงค้าประเวณีผ่านเว็บไซต์กว่า 40,000 ราย อายุต่ำสุด 15 ปี พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มาตรการสู้ฝุ่น

ขานรับมาตรการสู้ฝุ่น เช้าวันทำงาน “รถไฟฟ้า-รถเมล์” ขึ้นฟรี

“รถไฟฟ้า-รถเมล์” ฟรีตามมาตรการสู้ฝุ่น เช้าวันทำงาน พบส่วนใหญ่เลือกนั่งรถฟรี ประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนรถไฟฟ้าคนแน่น ขณะที่โรงเรียน กทม. 437 แห่ง เปิดเรียนตามปกติ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาฯ กทม.อากาศเย็นตอนเช้า-ลมแรง

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาฯ กับมีลมแรง ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล

เมย์วิวคว้าแชมป์แบด

“เมย์-วิว” คว้าแชมป์อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส

“น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ และ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ คว้าแชมป์แบดมินตันอินโดนีเซีย มาสเตอร์ส ในประเภทหญิงเดี่ยวและชายเดี่ยว