ออกประกาศห้ามพระสงฆ์ ชุมนุมจัดกิจกรรมการเมืองในวัด

สำนักข่าวไทย 1 ก.ย.-สมเด็จพระสังฆราช ลงพระนามออกประกาศมหาเถรสมาคม ห้ามชุมนุม-สัมมนา-จัดกิจกรรมทางการเมืองในวัด เกรงเกิดความไม่สงบ หากพบให้เจ้าอาวาสห้ามปรามทันที 


นายสิปป์บวร  แก้วงาม  ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กล่าวว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลสังฆปริณายก ทรงลงพระนามในประกาศมหาเถรสมาคม (มส.) เรื่อง ห้ามใช้วัดเป็นสถานที่ชุมนุม หรือสัมมนา หรือจัดกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบและความแตกแยกขึ้นในสังคม เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ระบุว่า ด้วย มส.ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2561 ได้รับทราบพฤติการณ์ว่ามีการใช้อาคาร สถานที่และพื้นที่ของวัด เป็นสถานที่จัดชุมนุม ประชุม สัมมนา เสวนา หรือกิจกรรมที่มีลักษณะ หรือเนื้อหาที่อาจเป็นการละเมิดกฎหมาย หรือกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือใช้จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งมีลักษณะเป็นการขัดคำสั่ง มส.ลงวันที่ 2 มกราคม 2538 เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ.2538 อันเป็นการใช้สถานที่วัดผิดไปจากวัตถุประสงค์ เพื่อประโยชน์เฉพาะการทำสังฆกรรม กิจกรรมทางพระพุทธศาสนา การคณะสงฆ์ การสาธารณสงเคราะห์ การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และการเสริมสร้างความสามัคคีของประชาชน จึงมีมติให้ประกาศดังต่อไปนี้


1.ให้พระสังฆาธิการปฏิบัติและกวดขันมิให้พระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง ตามคำสั่ง มส. ลงวันที่ 2 ม.ค.2538 

2.ห้ามเจ้าอาวาสใช้ ยินยอมหรืออนุญาตให้ใช้วัดเป็นสถานที่จัดชุมนุม ประชุม สัมมนา เสวนาหรือมีกิจกรรมที่มีลักษณะหรือเนื้อหาที่อาจเป็นการละเมิดกฎหมาย หรือกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือให้ใช้จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง


3.หากมีผู้มาใช้วัดเป็นสถานที่จัดกิจกรรมดังกล่าวในข้อ 2 โดยพลการให้เจ้าอาวาสเข้าป้องกัน ห้ามปราม หรือระงับ มิให้มีการจัดกิจกรรมนั้นในวัดต่อไป ทั้งนี้หากมีความจำเป็นให้ขออารักขาจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่

ทั้งนี้ การที่สมเด็จพระสังฆราช ทรงลงพระนามออกประกาศมส. ดังกล่าว สืบเนื่องจากในการประชุมมส.เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมและวันที่ 30สิงหาคมที่ผ่านมา กรรมการมส.ได้มีการหารือถึงกรณีที่ใกล้จะมีการเลือกตั้งตามแผนโรดแมปของรัฐบาล จึงเกรงว่าจะมีกลุ่มบุคคลอาศัยพื้นที่วัดในการหาเสียง หรือทำกิจกรรมที่ทางการเมืองที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบ จำเป็นต้องออกประกาศ มส. แจ้งไปยังคณะสงฆ์ทั่วประเทศอีกครั้ง 

อย่างไรก็ตามมส.ไม่ได้ห้ามกรณีที่หากจะมีนักการเมืองเข้าไปทำบุญในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนการเลือกตั้ง แต่หากเมื่อทำบุญเสร็จแล้ว มีการกล่าวเชิญชวนประชาชนให้ไปเลือกเบอร์ของตัวเอง ขอให้เจ้าอาวาสวัดเข้าไปห้ามปรามหรือหยุดยั้ง หากไม่สามารถดำเนินการเองได้ให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง