fbpx

นายกฯเชิญชวนเที่ยวงาน”เกษตรสร้างชาติ “

กรุงเทพฯ 1 ก.ย.-พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เชิญชวนเที่ยว “งานเกษตรสร้างชาติ” คาดปีนี้ส่งออกข้าวได้ไม่น้อยกว่า
10
ล้านตัน


นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2561  โดยระบุว่าในสัปดาห์นี้ รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัด 
งานเกษตรสร้างชาติ ขึ้น ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม 2 กันยายน นี้ ณ
สวนลุมพินี เป็นอีกงานที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจมหภาครวมทั้งการสร้างงาน สร้างรายได้
สร้างอาชีพให้กับพี่น้องเกษตรกร โดยการส่งเสริมให้เกษตรกรพัฒนายกระดับสินค้าเกษตร
และเข้าสู่การแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากตลาดท้องถิ่น ตลาดภูมิภาค
สู่ตลาดต่างประเทศ และตลาดออนไลน์ให้คนในเมืองได้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม
และเปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ทั้งเกษตรกรผู้ผลิตและผู้บริโภค
ซึ่งย่อมจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจฐานราก มีการกระจายตัวของรายได้มากขึ้น
ตลอดจนสามารถเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคได้โดยตรง จึงขอเชิญชวนประชาชน
ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ และผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชม
และทำความเข้าใจว่าเกษตรสร้างชาติได้อย่างไร อีกทั้ง
มาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนภาคการเกษตร

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการสร้างอนาคตประเทศไทย จะสำเร็จสมบูรณ์ไม่ได้
ถ้าวันนี้ไม่มีรากฐานที่แข็งแรงของภาคการเกษตร
ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ  หากมองย้อนกลับไป ทุกอย่างค่อย ๆ
ปรับเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น ได้รับความเชื่อมั่นจากต่างชาติมากขึ้น มี
Start up ภาคการเกษตร มี Young Smart
Farmer
เกิดขึ้นมากมาย
เปรียบเสมือนเป็นอนาคตที่สำคัญในภาคการเกษตร
                                                                                   


 ปัจจุบันมีกลุ่มเกษตรกรที่เข้มแข็ง
ได้แก่
Smart Farmerมากกว่า 1 ล้านราย มีเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพแล้วเกือบ
8
,000 ราย
มีอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) ที่คอยสนับสนุนงานทั่วประเทศ กว่า 75
,000 ราย
กลุ่มแม่บ้านเกษตร ประมาณ 20
,000 กลุ่ม สมาชิกราว 480,000 ราย สมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกรทั้งประเทศมากกว่า 160,000 ราย นอกจากนี้
ยังมีศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในสินค้าเกษตร (ศพก.) ที่มีเกษตรกรต้นแบบ
882 ราย สมาชิกแปลงใหญ่ เกือบ 3
,900 กลุ่ม ซึ่งทั้งหมดเป็นผลมาจากการพัฒนางานการเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้พี่น้องชาวเกษตรกรของเรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 สำหรับนโยบายเรื่องข้าว
ซึ่งเป็นพืชอาหารหลักของประชาชนในประเทศ และเกี่ยวข้องกับเกษตรกรกลุ่มใหญ่ของประเทศ
ได้มีแนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนให้ทำการเกษตรแบบรวมกลุ่มที่เรียกว่า
ระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่)
โดยมีการบริหารจัดการแปลงอย่างเป็นระบบเพื่อให้การผลิตมีศักยภาพสูงสุด
ได้ผลผลิตสูง คุณภาพดี มีต้นทุนการผลิตลดลง
อีกทั้งมีการเชื่อมโยงตลาดเข้ากับการผลิต
เพื่อสร้างเสถียรภาพและความเชื่อมั่นในเรื่องราคาที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย
 เกษตรกรมากกว่าร้อยละ
80 มีความพึงพอใจในการรวมกลุ่มทำนา เนื่องจากทำให้กลุ่มมีความเข้มแข็งขึ้น
มีรายได้เพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการตลาด
ทั้งของวิสาหกิจชุมชนด้านข้าวและสหกรณ์การเกษตร ได้รับรายงานว่า
เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 1
,325 บาทต่อไร่ โดยปีแรกที่เริ่มทำเพิ่มขึ้น 115 บาทต่อไร่ ปีที่ 2
เพิ่มขึ้น 1
,211 บาทต่อไร่ ซึ่งเป็นผลมาจากผลผลิตข้าวที่เพิ่มขึ้นร้อยละ17.5
ขณะที่ต้นทุนการผลิตลดลงร้อยละ 19
ขณะนี้มีชาวนาที่ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการนาแปลงใหญ่จำนวนกว่า 1
,900 แปลง
รวมเกษตรกรกว่า 170
,000 ราย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2.4 ล้านไร่ใน 71 จังหวัด
ในจำนวนนี้เป็นการดำเนินงานในศูนย์ข้าวชุมชนจำนวน
368 แปลง ซึ่งในปีงบประมาณ 2562
มีแผนที่จะขยายพื้นที่เพื่อให้เป็นผลดีต่อชาวนาเพิ่มขึ้น
โดยให้ความสำคัญกับศูนย์ข้าวชุมชนเป็นอันดับแรก
เนื่องจากเป็นองค์กรชาวนาที่มีความเข้มแข็ง มั่นคง
และเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาข้าวและชาวนา ในแต่ละท้องถิ่น

ปัจจุบัน มีศูนย์ข้าวชุมชนที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการข้าวแล้วประมาณ
1
,800 ศูนย์
และตั้งเป้าไว้ที่
7,000 ศูนย์ ในปี 2564 (อีก 3 ปีข้างหน้า)
สำหรับการส่งเสริมและถ่ายทอดการพัฒนาและผลิตข้าวแบบแปลงใหญ่
ให้กระจายสู่ชาวนาทุกพื้นที่และเชื่อมโยงสู่ตลาด ก็คือตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง
ปลายทาง รวมทั้งการขับเคลื่อนการผลิตข้าวพันธุ์ดีไว้บริการชาวนาในแต่ละท้องถิ่น
ทราบว่าสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีรวมกันได้ปีละไม่น้อยกว่า
100,000 ตัน
ซึ่งนับว่าเป็นองค์กรหลักของชาวนาที่มีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางจากหน่วยงานต่าง
ๆ รวมทั้งชาวนาทั่วไป


สำหรับสถานการณ์ข้าวในปีนี้ หลายประเทศต้องประสบกับปัญหาภัยพิบัติต่าง ๆ
ทำให้พื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
จึงจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของชาวเอเชีย
จึงเป็นปีทองของข้าวไทยอีกปีหนึ่งต่อจากเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งไทยส่งออกข้าวทั้งสิ้น
11.63 ล้านตัน
คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า
1.93 แสนล้านบาท โดยคาดว่าปีนี้จะส่งออกข้าวได้ไม่น้อยกว่า 10 ล้านตัน
ซึ่งจะเป็นผลดีต่อราคาข้าวเปลือกในประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังคงจำเป็นต้องร่วมมือกันดำเนินการตามนโยบายตลาดนำการผลิต
 ไม่ใช่เฉพาะเรื่องข้าว
แต่รวมไปถึงพืชผลทางการเกษตรอื่น ๆ ของประเทศด้วย

นอกจากนี้ การส่งเสริมการเกษตรยังได้มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรอย่างต่อเนื่อง
อีกด้วย เช่น มะม่วง จากเดิมเราปลูกเป็นพืชหลังบ้าน
ปัจจุบันส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ใช้ ศพก. เชื่อมโยงเครือข่ายกลุ่มผู้ปลูกมะม่วงทั้งประเทศ
มีการจัด
Zoning นำเทคโนโลยีการผลิตส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่ ทั้งการตัดแต่งกิ่ง
ควบคุมโรคแมลง ห่อผล ส่งเสริมการทำผลผลิตนอกฤดู พัฒนามาตรฐานตามระบบ
GAP และวางระบบ Logistic อย่างเหมาะสม
จนสามารถสร้างแบรนด์
Thai Golden Mango ส่งมะม่วงออกต่างประเทศได้กว่า
70
,000
ตัน สร้างมูลค่าให้กับประเทศได้กว่า 3
,000 ล้านบาท และสินค้าเกษตรหลายชนิด ยังสามารถปลูกเพื่อทำรายได้กลับเข้าสู่ประเทศ
เช่น กล้วยไม้ ทุเรียน ลำไย มังคุด กาแฟ   โดยมูลค่าการผลิตภาคเกษตร
GDP คิดเป็นมวลรวมภาคเกษตรได้
1.35 ล้านล้านบาท
สำนักข่าวไทย

           

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เรือสินค้าชนสะพานพังในสหรัฐ

บัลติมอร์ 26 มี.ค.- สื่อในสหรัฐรายงานว่า เกิดเหตุเรือสินค้าชนสะพานสำคัญในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ทำให้สะพานพังลงไปในแม่น้ำ เว็บไซต์บิสซิเนสส์ อินไซเดอร์รายงานว่า มีผู้โพสต์คลิปผ่านเอ็กซ์ (X) ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่เรือลำใหญ่ชนกับคานรองรับของสะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ (Francis Scott Key Bridge) เห็นกลุ่มควันลอยขึ้นจากเรือ จากนั้นสะพานได้ทยอยพังลงไปในแม่น้ำ ขณะที่สำนักงานเครื่องกลเบย์แอเรียถ่ายทอดสดทางยูทูบเมื่อเวลา 01:28 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เห็นเรือลำใหญ่ชนสะพานดังกล่าว จากนั้นเมื่อเวลา 03:00 น.เห็นโครงสร้างสะพานแตกเป็นส่วน ๆ และจมอยู่ในแม่น้ำ บิสซิเนสส์ อินไซเดอร์ได้ตรวจสอบแผนที่การเดินเรือในเว็บไซต์เวสเซิล ไฟน์เดอร์ (VesselFinder) พบว่า เมื่อเวลา 02:50 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เรือดาลี (Dali) ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าติดธงชาติสิงคโปร์ ยังคงจอดนิ่งอยู่ใต้สะพาน สะพานแห่งนี้เปิดใช้งานเมื่อเดือนมีนาคม 2520 มีความยาวทั้งหมด 2,632.3 เมตร.-814.-สำนักข่าวไทย

ศาลยกฟ้อง “ชวน หลีกภัย” หมิ่นประมาท “ทักษิณ”

“ชวน” อดีตนายกรัฐมนตรี เผยศาลยกฟ้องคดี “ทักษิณ” ฟ้องหมิ่นประมาท ชี้มีสิทธิ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่ได้ประสบมาเพราะเป็นนักการเมืองและเป็นอดีตนายกรัฐมนต

“ทนายตั้ม” แฉเส้นทางเงินเว็บพนันโยง “ส่วยตัวท็อป” น็อก “บิ๊ก ตร.”

“ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ตั้งโต๊ะเปิดหลักฐานแฉขบวนการส่วยตัวท็อปแบบม้วนเดียวจบ โยงบิ๊กตำรวจรับเงินเว็บพนัน

ข่าวแนะนำ

ให้ประกันตัว “จักรภพ” นัดพบพนักงานสอบสวน 22-23 เม.ย.

ตำรวจกองปราบฯ อนุญาตประกันตัว “จักรภพ เพ็ญแข” วางหลักทรัพย์ข้อหาละ 200,000 บาท นัดหมายพบพนักงานสอบสวน 22-23 เม.ย.นี้

“ทนายตั้ม” มอบหลักฐานแฉเส้นทางการเงินเว็บพนันโยง “บิ๊ก ตร.” ให้ “บิ๊กเต่า”

“ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด นำหลักฐานมอบให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังออกมาแฉเส้นทางการเงินเว็บพนันโยงถึงบิ๊กตำรวจ

“จักรภพ เพ็ญแข” ถึงกองปราบฯ รายงานตัวตามหมายจับ

“จักรภพ เพ็ญแข” ถึงกองปราบฯ รายงานตัวตามหมายจับคดีครอบครองอาวุธปืน -อั้งยี่ เมื่อปี 2560 ด้านทนายความเตรียมหลักทรัพย์ 2-3 แสนบาทต่อคดี ไว้ยื่นประกันตัวในชั้นสอบสวน

พบร่างเหยื่อสะพานถล่มแล้ว 2 ราย

ทีมนักประดาน้ำสหรัฐ พบร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุสะพานพังถล่มในเมืองบัลติมอร์ แล้ว 2 ราย เป็นคนงานชาวเม็กซิโกและชาวกัวเตมาลา