ส่งออกไทยขยายตัว 7 เดือนต่อเนื่อง ม.ค.68 ขยายตัว 13.6%

ก.พาณิชย์ 25 ก.พ. – ส่งออกไทยขยายตัว 7 เดือนต่อเนื่อง ม.ค.68 ขยายตัว 13.6% ห่วงส่งออกข้าวหดตัวแรง 32.4% หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน ชี้ข้าวไทยแพงที่สุดในโลก ปัจจัยจากอินเดียกลับมาส่งออกข้าว-ผลผลิตต่อไร่ต่ำ-เงินบาทแข็งตัว ด้านเอกชนยอมรับส่งออกไปสหรัฐเร่งตัว ป้องกันความเสี่ยงสงครามการค้า


นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ แถลง การส่งออกของไทยในเดือนมกราคม 2568 มีมูลค่า 25,277.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (862,367 ล้านบาท) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ที่ร้อยละ 13.6 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ร้อยละ 11.4 โดยได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวกลับสู่กรอบเป้าหมาย และการขยายตัวของกิจกรรมภาคการผลิต ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 3.3 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นทั้งในภาคการผลิตและผู้บริโภค นอกจากนี้ การส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างสหรัฐฯ และจีนขยายตัวในระดับสูง ส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าทุนและวัตถุดิบของไทย ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่อาจสร้างแรงกดดันต่อการค้าโลก

มูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนมกราคม 2568 การส่งออก มีมูลค่า 25,277.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 13.6 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 27,157.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 7.9 ดุลการค้า ขาดดุล 1,880.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 0.1 (YoY) ขยายตัวต่อเนื่อง 7 เดือน โดยสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 3.0 ในขณะที่สินค้าเกษตร หดตัวร้อยละ 2.2 โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ยางพารา ขยายตัวร้อยละ 45.5 ขยายตัวต่อเนื่อง 15 เดือน ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป ขยายตัวร้อยละ 12.3 ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ขยายตัวร้อยละ 11.8 ขยายตัวต่อเนื่อง 7 เดือน อาหารสัตว์เลี้ยง ขยายตัวร้อยละ 13.0 ขยายตัวต่อเนื่อง 16 เดือน ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ ขยายตัวร้อยละ 19.5 ขยายตัวต่อเนื่อง 13 เดือน ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ขยายตัวร้อยละ 13.4 ขยายตัวต่อเนื่อง 16 เดือน

ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ข้าว หดตัวร้อยละ 32.4 หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน (หดตัวในตลาดแคนาดา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เยเมน และจีน แต่ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ อิรัก แอฟริกาใต้ เซเนกัล และญี่ปุ่น) ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง หดตัวร้อยละ 11.0 กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน (ยกเว้น ทุเรียน ขยายตัว) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง หดตัวร้อยละ 7.9 กลับมาหดตัวหลังจากขยายตัวในเดือนก่อนหน้า เครื่องดื่ม หดตัวร้อยละ 16.0 กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน ผักกระป๋อง และแปรรูป หดตัวร้อยละ 13.3 กลับมาหดตัวในรอบ 4 เดือน

มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 17.0 (YoY) ขยายตัวต่อเนื่อง 10 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 45.0 ขยายตัวต่อเนื่อง 10 เดือน ขยายตัวร้อยละ 148.8 ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน ผลิตภัณฑ์ยาง ขยายตัวร้อยละ 19.9 ขยายตัวต่อเนื่อง 7 เดือน เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 28.1 ขยายตัวต่อเนื่อง 11 เดือน เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 33.2 ขยายตัวต่อเนื่อง 7 เดือน


ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 16.5 หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน
เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ หดตัวร้อยละ 18.6 หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 16.8 หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน เครื่องสำอาง สบู่และผลิตภัณฑ์รักษาผิว หดตัวร้อยละ 18.3 หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด หดตัวร้อยละ 38.2 หดตัวต่อเนื่อง 11 เดือน

ตลาดส่งออกสำคัญ ส่วนใหญ่ขยายตัว สอดคล้องกับสัญญาณการฟื้นตัวของภาคการผลิตโลก ประกอบกับตามความต้องการนำเข้าที่เร่งตัวขึ้น ท่ามกลางความกังวลต่อความเสี่ยงของนโยบายกีดกันทางการค้า โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 22.4 (ขยายตัวต่อเนื่อง 16 เดือน) และจีน ขยายตัวร้อยละ 13.2 (ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน)

นายพูนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมแสดงความเป็นห่วงถึงการส่งออกข้าวที่หดตัว ว่าหลังจากอินเดียเริ่มกลับมาส่งออกข้าวขาวในเดือน ต.ค.67 ปริมาณการส่งออกข้าวไทยลดลงทันที 20% และลดลงต่อเนื่อง ทำให้ราคาข้าวตกต่ำลง นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยทั้งจากผลผลิตต่อไร่ที่ลดน้อยลง และเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ขณะนี้ข้าวไทยมีราคาแพงที่สุดในโลก ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาดูแลเรื่องดังกล่าว เนื่องจากประเทศไทย มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5.27 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 68% ของครัวเรือนเกษตรกรทั้งหมด ทั้งเรื่องปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน เทคโนโลยี การเกษตร เพื่อให้ผลผลิตต่อไร่ทัดเทียมกับประเทศที่ปลูกข้าว รวมถึงดูแลต้นทุนการผลิต

สำหรับแนวโน้มการส่งออกในปี 2568 กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการขยายตัวที่ร้อยละ 2-3 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ ได้แก่ แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะเติบโตตามการขยายตัวของภาคการผลิต สถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนและตะวันออกกลางที่เริ่มคลี่คลาย ดัชนีราคาอาหารโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นซึ่งสะท้อนความต้องการสินค้าเกษตรและอาหารที่เพิ่มขึ้น รวมถึงโอกาสการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการทดแทนสินค้านำเข้าจากจีน อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยท้าทายที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ สถานการณ์การค้าโลกที่ยังคงตึงเครียด ความเสี่ยงของการเกิดวิกฤตเงินเฟ้อรอบใหม่ในสหรัฐฯ ผลกระทบจากมาตรการจำกัดการส่งออกน้ำมันของรัสเซียที่อาจส่งผลต่อราคาพลังงานและค่าระวางเรือ ตลอดจนผลกระทบจากมาตรการทางการค้าต่าง ๆ เช่น การปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และการทะลักเข้ามาของสินค้าจีน ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยจำเป็นต้องรักษาสมดุลทางการค้า กระจายความเสี่ยงด้านตลาด และกำหนดมาตรการที่เหมาะสมเพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งแสวงหาโอกาสเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดจากสถานการณ์ที่ท้าทาย

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ยอมรับว่าเดือน ม.ค.2568 การส่งออกไปสหรัฐเร่งตัว ส่งผลให้ค่าระวางสูงขึ้น ยอมรับว่านโยบายสงครามการค้าส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนสูง ไทยเองต้องปรับตัว และต้องจับตาว่าใครจะมีข้อตกลงทางการค้า (trade deal) อย่างไร โดยประเมินช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.. การส่งออกจะยังเร่งตัวต่อเนื่อง เพื่อป้องกันความเสี่ยงผลกระทบจากนโยบายสงครามการค้าที่อาจจะเกิดขึ้น ขณะที่ ไตรมาส 2 ยังต้องรอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สั่ง 4 ข้อยกระดับมาตรฐานซาฟารีเวิลด์ ห่วงความปลอดภัยและสวัสดิภาพสัตว์

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – อธิบดีกรมอุทยานฯ มีคำสั่งด่วนถึงซาฟารีเวิลด์ ให้ปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้ายโดยเร็ว พร้อมกำหนด 4 มาตรการเข้มที่ต้องปฏิบัติเพื่อยกระดับความปลอดภัยทั้งต่อนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ชี้เป็นห่วงสุขภาพและสวัสดิภาพสิงโต เบื้องต้นพบมีภาวะเครียดและมีอาการโรคผิวหนัง ส่วนกรงยังมีไม่เหมาะสมเพียงพอ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงบริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ให้ดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้าย หลังเกิดเหตุสิงโตในโซนจัดแสดงแบบเปิดรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์จนเสียชีวิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นของคณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ พบข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยหลายประการเช่น ไม่มีระบบกั้นพื้นที่อย่างปลอดภัย ไม่มีประตูนิรภัยสองชั้น และขาดอุปกรณ์ควบคุมสัตว์ที่เหมาะสม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าใกล้สัตว์โดยตรงขณะปฏิบัติงาน กรมฯ จึงกำหนด 4 มาตรการเร่งด่วน ที่บริษัทต้องดำเนินการให้ครบถ้วน ดังนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ ย้ำว่า ได้ให้บริษัทเร่งปรับปรุงให้ได้ตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยทั้งของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ก่อนหน้านี้ กรมอุทยานฯ ได้มีคำสั่งปิดการจัดแสดงสิงโตและสัตว์ดุร้ายในสวนสัตว์เปิดซาฟารีเวิลด์เป็นการชั่วคราวหลังเกิดเหตุ โดยคำสั่งล่าสุดนี้ ถือเป็นการกำหนดรายละเอียดแนวทางแก้ไขเชิงระบบ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังแสดงความห่วงใยถึงสุขภาพและสวัสดิภาพของสิงโต 5 ตัวที่รุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตวว์ เป็นเพศผู้ 3 ตัว เพศเมีย 2 […]

ชาวบ้านเฮ! ปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยังได้สำเร็จ

ร้อยเอ็ด 12 ก.ย. – สามารถปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยัง บริเวณบ้านทรายมูล อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน เร่งช่วยกันซ่อมแซม ปฏิบัติการเร่งซ่อมพนังกั้นลำน้ำยังที่ขาด บริเวณบ้านทรายมูล หมู่ 4 ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทำให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมนาข้าวเสียหายกว่า 5,000 ไร่ ครอบคลุม 3 ตำบล นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นำเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน ใช้ทั้งแรงคนและเครื่องจักรหนัก รถบรรทุกทราย และถุงบิ๊กแบ็กปิดกั้นรอยแตก นอกจากนี้ยังนำเสาไฟฟ้า 16 ต้น มาวางพาดขวางเสริมฐานความแข็งแรง ร่วมกับท่อนไม้ขนาดใหญ่ เพื่อชะลอความแรงของกระแสน้ำ ก่อนใช้รถแบ็กโฮจัดวางถุงทรายทับซ้ำอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้แนวป้องกัน เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (11 ก.ย.) สามารถปิดบริเวณที่ขาดได้สำเร็จ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด กล่าวว่า หลังจากปิดกั้นจุดที่ขาดเสร็จสิ้น […]

‘เจนซี’ เนปาลเรียกร้องยุบสภา-ตายเพิ่มเป็น 34 ราย

กาฐมาณฑุ 12 ก.ย. -ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงรุนแรงในเนปาล เพิ่มเป็น 34 ราย ผู้นำเยาวชนเรียกร้องให้ยุบสภา และสนับสนุนอดีตประธานศาลฏีกาหญิง เป็นผู้นำประเทศชั่วคราว หลังการประท้วงรุนแรง 2 วันจนนายกรัฐมนตรีต้องลาออก โอจาชวี ราช ทาปา ผู้นำเยาวชนเนปาล เรียกร้องให้ยุบสภาหลังการเจรจากับกองทัพในกรุงกาฐมาณฑุเมื่อวานนี้ และบอกว่า พวกเขาสนับสนุนให้ สุชิลา คาร์กี อดีตประธานศาลฎีกา เป็นหัวหน้ารัฐบาลรักษาการ พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกรัฐธรรมนูญ แต่เสริมว่ายังมีสิ่งที่ต้องแก้ไขอีกมาก ขณะที่แกนนำเยาวชนอีกคนอ้างว่า พวกเขาได้ประท้วงอย่างสันติหลังจากได้รับอนุญาตจากนายกเทศมนตรีของกรุงกาฐมาณฑุ แต่รัฐบาลกลับสั่งให้ตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่พวกเขาเพื่อหวังสลายการชุมนุมจนนำไปสู่ความรุนแรงเป็นเหตุจลาจลนองเลือด เผาทำลายอาคารรัฐสภา จนนายกรัฐมนตรี เคพี ชาร์มา โอลี ต้องลาออก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงเพิ่มเป็น 34 ราย บาดเจ็บ 1,033 คน ส่วนเมื่อวานนี้ ทหารยังคงลาดตระเวนตามท้องถนนที่เงียบสงบของกรุงกาฐมาณฑุ ร้านค้าและโรงเรียนยังคงปิด ส่วนหน่วยงานบริการสำคัญบางแห่งกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เหตุความวุ่นวายในเนปาลรอบนี้ มีที่มาจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ถูกยกเลิกไปหลังจากมีผู้เสียชีวิต 19 รายในวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนที่การประท้วงจะขยายไปเป็นการต่อต้านการทุจริตของนักการเมืองและข้าราชการ รวมถึงบรรดาลูกท่านหลานเธอและอภิสิทธิ์ชน ที่นำเสนอชีวิตหรูหราสุขสบายของพวกเขาผ่านทางสื่อออนไลน์ ในขณะที่ชาวเนปาลจำนวนมากยังมีชีวิตที่ยากลำบาก การประท้วงนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นการเคลื่อนไหวของคนเจนซี […]

“อนุทิน” รับคำอวยพรผู้นำสิงคโปร์ ย้ำความร่วมมือ 5 ด้าน

กทม.12 ก.ย. – “อนุทิน” รับคำอวยพรผู้นำสิงคโปร์ ยกหูโทรแสดงความยินดีนั่งนายกรัฐมนตรี ย้ำแนวทางร่วมมือ 5 ด้าน เผยเตรียมพบกันเร็วๆ นี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพคุยโทรศัพท์ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมข้อความระบุว่า นายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรี ประทศสิงคโปร์ ได้โทรศัพท์มาเพื่ออวยพรถึงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ซึ่งได้ย้ำกับนายลอว์เรนซ์ ว่า ในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย จะร่วมมือกับรัฐบาลสิงคโปร์อย่างเข้มแข็ง และดำเนินการอย่างแน่วแน่ต่อโอกาสที่จะเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล (digital economy) เทคโนโลยีด้านการเงิน (fintech) ความมั่นคงทางอาหาร (food security) พลังงาน (energy) และการศึกษา (education) พวกเราทั้ง 2 คนจะพบกันในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ -สำนักข่าวไทย