หนุนเอสเอ็มอีบุกตลาดต่างประเทศ

 


 

กรุงเทพฯ 17 ก.ย. –รัฐ-เอกชนหนุนเอสเอ็มอี บุกตลากต่างประเทศ แนะทำประกันความเสี่ยงส่งออก ทำความคุ้นเคยด้านภาษา กำหนดกลยุทธผูกใจลูกค้า เผยกลุ่มเกษตรต้องปรับตัว เพราะเพื่อนบ้านนำพันธุ์ “ เงาะ มังคุด ทุเรียน” ไปปลูกและได้สิทธิจีเอสพี แข่งขันตลาดส่งออกไทย


นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา  กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง “โอกาสและความสำเร็จในการดำเนินธุรกิตต่างประเทศ” ว่า ธุรกิจขนาดใหญ่เมื่อส่งออกสินค้าไปต่างประเทศมูลค่าร้อยล้านพันล้านส่วนใหญ่ประกันความเสี่ยงจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการค้า เพราะถือว่าเป็นต้นทุนไม่สูงมากนัก และไม่ต้องเสียเวลาในการตรวจสอบข้อมูลลูกค้าในต่างประเทศ เนื่องจากมีผู้ดูแลให้

ดังนั้น จึงแนะนำผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ความสำคัญกับการทำประกันความเสี่ยงจากการค้า และเอ็กซิมแบงก์ก็ให้ความสำคัญกับการประกันความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น นอกจากการปล่อยสินเชื่อสำหรับผู้ส่งออกและนำเข้า และเชิญผู้ส่งออกทำประกันการส่งออก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นยืนยันการได้รับเงินอย่างแน่นอนเพื่อค้าขายกับเพื่อนบ้าน  เพราะหากส่งสินค้า 1 ชิ้บเม้นท์(SHIPMENT) วงเงิน 5 แสนบาท จ่ายค่าธรรมเนียมเพียง 1,500 บาทเท่านั้น นับว่าเป็นต้นทุนถูกมาก

นอกจากนี้เอ็มซิมแบงก์ยังร่วมมือกับกรมการค้าต่างประเทศ  สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ บีโอไอ กระทรวงการต่างประเทศ ช่วยประสานข้อมูลดูแลผู้ส่งออก โดยเฉพาะผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ รวมทั้งยังเตรียมออกผลิตภัณฑ์ส่งเสริมเอสเอ็มอีบุกตลาดแอฟฟริกา รัสเซีย ตะวันออกกลาง  โดยเสนอให้รัฐชดเชยค้ำประกันในบางส่วน  ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเสนอกระทรวงการคลังการพิจารณา เพื่อส่งเสริมให้เอสเอ็มอีขยายตลาดไปต่างประเทศมากขึ้น


นายเนวิน สินสิริ ผู้อำนวยกาารสำนักความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน(NEDA) กล่าวว่า นักลงทุนประเทศเพื่อนบ้านรู้ภาษาไทยเป็นอย่างดี เพราะฟังวิทยุ ดูทีวีจากไทย การเจรจาต่อรองจึงได้เปรียบนักธุรกิจไทย ขณะที่คนไทยฟังภาษาเพื่อนบ้านไม่ได้เลย ดังนั้น หากต้องการเจรจาธุรกิจได้อย่างมั่นใจต้องเข้าถึงเข้าของกิจการผ่านภาษาพื้นเมืองให้ได้ หรือหาพันธมิตรที่ไว้ใจในการตกลงทางธุรกิจ รวมทั้งยังต้องช่วยเหลือทางสังคมกับประเทศคู่ค้า เพื่อมัดใจเมื่อประสบปัญหาไม่ใช่หวังนำกำไรกลับประเทศอย่างเดียว นับว่าการค้าของประเทศเพื่อนบ้านยังขยายตัวได้ดีถึงร้อยละ 7-8 ต่อปี

 

นายนิยม ไวยรัชพาณิชย์ รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สินค้าเกษตร เช่น เงาะ มังคุด ทุเรียน ซึ่งมีชื่อเสียงจากไทย เริ่มถูกนำออกไปปลูกใน สปป.ลาว เวียดนาม แล้วส่งออกแข่งขันกับไทย ได้เปรียบด้านภาษี เช่น เมื่อส่งไปจีน ได้รับสิทธิ์จีเอสพี เพราะเสียภาษีเพียงร้อยละ 5  ขณะที่ส่งออกไปจากไทยต้องเสียภาษีนำเข้าร้อยละ 15 การส่งออกผลไม้ สินค้าเกษตรไปยังจีนจึงต้องปรับตัว และหากต้องการบุกตลาดเพื่อนบ้านต้องเรียนรู้ประสบการณ์การค้าชายแดนให้มั่นใจเจาะตลาดเข้าไปในประเทศ เพราะต้องใช้กลยุทธหลากหลายในการเข้าถึงผู้ประกอบการ แต่ไม่ใช่การหลีกเลี่ยงกฎหมายของประเทศคู่ค้า

นายนิยม กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลเร่งพัฒนาเขตเศรษฐกิจแม่สอด จ.ตากและจ.สระแก้ว เพื่อให้เป็นเขตเศรษฐกิจนำร่องนับว่าเป็นสิ่งที่ดี  จึงต้องการเสนอให้รัฐบาลพิจารณาผ่อนปรนเปิดให้รถบรรทุกของเมียนมาร์ หรือกัมพูชาผ่านชายแดน เพื่ออำนวยความสะดวกขนส่งสินค้ามายังเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพราะหากไม่ปล่อยเข้ามา เอกชนไทยต้องขนออกไปส่งอีกทอดหนึ่ง

“ เพียงแก้ไขกฎเกณฑ์จะทำให้คล่องตัวมากขึ้น และทำให้คลังสินค้าตามชายแดนเกิดขึ้นฝั่งไทยจำนวนมาก ควรผ่อนปรนการอนุญาติเข้ามาพักอาศัยชั่วคราว 7 วัน พักถาวร 14 วัน  เพราะหากไม่แก้ไขข้อกำหนดเหล่านี้  ความเจริญจะเกิดขึ้นฝั่งตรงข้ามกับเขตเศรษฐกิจของเพื่อนบ้านมากกว่าไทย  เมื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแล้วควรต้องแก้ไขกฎเกณฑ์เพื่ออำนวยความสะดวกในหลายด้านด้วยเช่นกัน”นายนิยม กล่าว .-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

กองปราบย้าย “สจ.กอล์ฟ-พวก” เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

กทม. 31 พ.ค.- ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “สจ.กอล์ฟ” พร้อมพวกทั้ง 7 คน จากเรือนจำ จ.สงขลา ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว ด้าน ผอ.กกต.สงขลา แจ้งความดำเนินคดีอาญาเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 10 คน คดีนายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ ที่สั่งลูกน้องไปรุมทำร้ายตำรวจ ตชด. ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้งท้องถิ่นเทศบาลตำบลพะวง อ.เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา และคดีนี้มีการโอนย้ายให้ทางตำรวจกองปราบดำเนินการ และทางตำรวจกองปราบได้ยื่นหนังสือคำร้องโอนย้ายการฝากขังจากศาลจังหวัดสงขลา มาเป็นศาลอาญารัชดา และทำหนังสือไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์เพื่อขอโอนตัวผู้ต้องขังทั้ง 7 ราย จากเรือนจำจังหวัดสงขลา มาคุมขังต่อยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อความสะดวกในการดำเนินการทางคดี ล่าสุด เมื่อวานนี้ (30 พ.ค.68) ได้มีการส่งตัว สจ.กอล์ฟ พร้อมพวกทั้ง 7 รายจากเรือนจำจ.สงขลาไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเรียบร้อยแล้ว โดยภารกิจนี้ถูกปิดเป็นความลับเพื่อความปลอดภัย โดยผู้ต้องขังทั้ง 7 รายประกอบด้วย นายสิรดนัย […]

ตำรวจเมากร่าง ถูกให้ออกจากราชการ

เชียงใหม่ 31 พ.ค.-ให้ออกจากราชการ ตำรวจเมากร่าง ทำร้ายร่างกายตำรวจจราจร สภ.สันกำแพง ขณะปฏิบัติหน้าที่ จากกรณีคลิปตำรวจนายหนึ่ง ได้ใช้คำพูดด่าทอหยาบคาย และถึงขั้นเข้าไปทำร้ายร่างกายตำรวจจราจรสถานีตำรวจภูธรสันกำแพง ขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณแยกต้นเปาพัฒนา ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โดยต้นเหตุเกิดจาการที่ตำรวจที่มีอาการมึนเมา ขับรถไปเฉี่ยวชนรถของผู้อื่นจนได้รับความเสียหาย และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาดูแลความเรียบร้อย แต่กลับถูกด่าทอ และทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้ ที่เมาแล้วกร่าง ถูกดำเนินคดี 4 ข้อหา คือ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย 2.ขับรถในขณะเมาสุรา 3.ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และ 4.ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และล่าสุด วันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจตรี วรพงศ์ คำลือ ผู้บังคับการกองบังคับการ สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีคำสั่งที่ 204 / 2568 ให้สิบตำรวจเอก นายดังกล่าว ออกจากราชการไว้ก่อน […]

ถกงบ 69 วันสุดท้ายเหงา ช่วงเช้าไร้เงารัฐมนตรี

รัฐสภา 31 พ.ค.-ถกงบ 69 วันที่ 4 ช่วงเช้าไร้เงารัฐมนตรี หลังเจอ “ทักษิณ” ทวง “มหาดไทย” คืน ขณะที่เวทีอภิปราย “เลาฟั้ง” ซัด “กรมป่าไม้-กรมอุทยานฯ” ได้งบ 692 ล้าน แต่เอาไปแก้ปัญหาที่ดินแค่ 34% ชี้ควรดำเนินการปฏิรูปที่ดินให้ชัดเจนตามสิทธิ์ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยบรรยากาศช่วงเช้าเป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยเฉพาะบริเวณประตูหน้าอาคารรัฐสภา ที่เป็นทางเข้าหลักของรัฐมนตรี ปรากฏว่า แทบจะไม่มีรัฐมนตรีเดินทางมาร่วมการประชุม ทั้งรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคกล้าธรรม มีเพียงแค่น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม คนเดียวเท่านั้นที่เดินเข้าประตูดังกล่าว ภายหลังจากที่เมื่อวันที่ 30พ.ค.นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปให้สัมภาษณ์ที่สำนักข่าวเนชั่นทีวี […]

ปศุสัตว์ยืนยันไม่พบสัตว์ป่วย-ตายจากแอนแทรกซ์ในหนองบัวลำภู

กรุงเทพฯ​ 31 พ.ค.​-อธิบดี​กรม​ปศุสัตว์ เผย​ผลตรวจจากแล็บยืนยันไม่พบเชื้อโรคแอนแทรก​ซ์​จากตัวอย่าง​โค-กระบือ ​ใน​ จ.​มุกดาหาร​ อีก​ทั้ง​สัตว​แพทย์​ไม่พบสัตว์ในพื้นที่​ป่วย หรือตายจากโรคใดๆ​ ล่าสุด​มีหนังสือ​จาก​ทางการ​ลาวผ่อนปรน​การนำเข้า​สัตว์​จากไทย เนื่อง​จาก​เห็นว่าสถานการณ์​โรคคลี่คลาย​ รายงาน รมว.​เกษตรฯ แล้ว นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากกรณีพบผู้ป่วยมีตุ่มพองตามร่างกายในพื้นที่อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยยังไม่ทราบสาเหตุ ทางกรมปศุสัตว์ได้รับรายงานจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดหนองบัวลำภูว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในหมู่บ้านซับภูเก้า หมู่ที่ 13 ตำบลหนองเรือ ซึ่งมีโคประมาณ 60–70 ตัว และกระบือประมาณ 20 ตัว โดยสัตวแพทย์ตรวจสอบแล้วไม่พบสัตว์ป่วยหรือตายจากโรคใดๆ เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างเลือดและมูลของโคที่อยู่ร่วมฝูงกับโคที่ถูกนำไปชำแหละ รวมถึงตัวอย่างดินจากคอกเลี้ยงและบริเวณชำแหละซาก และซากเศษเนื้อหรือชิ้นส่วนวัวที่ยังหลงเหลือ ส่งตรวจที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเบื้องต้นยืนยันว่า ไม่พบเชื้อแบคทีเรีย Bacillus anthracis ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคแอนแทรกซ์ และไม่พบเชื้อโรคติดต่ออื่นใดในสัตว์เลี้ยงในพื้นที่ อธิบดีกรมปศุสัตว์ยังรายงานผลการตรวจสอบดังกล่าวให้ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทราบแล้ว นอกจากนี้​ยังรายงานความคืบหน้าว่า กระทรวงเกษตร กสิกรรมและป่าไม้ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้มีหนังสือลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 […]