รัฐบาลเร่งตรวจสอบการใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – รองนายกรัฐมนตรียืนยันตรวจสอบการใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ควบคู่อนุมัติการขอเงินสนับสนุนต่าง ๆ โดยมีความตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้โปร่งใสและเพื่อประชาชน


จากกรณีกระแสข้อครหาเกี่ยวกับเรื่องการขอรับการสนับสนุนเงินจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยเฉพาะปีงบประมาณปี 2561 เพิ่มเติม 5,200 ล้านบาท และปีงบ 2562 อีก 10,448 ล้านบาท แต่มีผู้เสนอขอเข้ามา 900 โครงการ มูลค่าถึงประมาณ 31,000 ล้านบาทนั้น

พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า จะมีการตรวจสอบเรื่องนี้และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบในการประชุมคณะกรรมการกองทุนวันที่ 6 กันยายนนี้ เพื่อเดินหน้าพิจารณาโครงการต่าง ๆ ที่เสนอขอรับการสนับสนุนเข้ามาตามวาระปกติ ดังนั้น ขอให้มีความมั่นใจว่าคณะกรรมการทุกระดับตั้งแต่สำนักงานกองทุนฯ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ปลัดและรัฐมนตรี มีความตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้โปร่งใสและเพื่อประชาชน


กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน มีการดำเนินงานมาต่อเนื่องปี 2561 มีการเปลี่ยนผ่านในเรื่องสำนักงานบริหารกองทุนฯ เพราะฉะนั้นต้องยอมรับว่าต้องมีการฝึก-รับบุคลากรใหม่ และมีการโอนงานส่วนหนึ่งจาก สนพ. ซึ่งผู้จัดการเพิ่งจะมารับหน้าที่ ดังนั้น นายศิริ จิระพงษ์พันธ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จึงสั่งการให้ปลัดกระทรวงพลังงานและผู้อำนวยการเข้ามาช่วยดูแล จึงอยู่ในช่วงขับเคลื่อนต้องใช้เวลา เมื่อใช้เวลาตามกฎของกองทุนหมุนเวียนจะต้องส่งรายงานให้กรมบัญชีกลางรับทราบล่วงหน้า ส่วนหนึ่งรายงาน 30 วัน อีกส่วน 90 วัน ดังนั้น สิ่งนี้จะต้องทำควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ว่ามีกองทุนสนับสนุนภาคส่วนต่าง ๆ ในหลักการคล้าย เดิม ส่วนหนึ่งค่อย ๆ ดำเนินการในเรื่องแผนงาน มีการจัดประชุมผู้ที่เกี่ยว ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานดูแลใกล้ชิด ในการทำงานขออภัยหากมีการล่าช้าหรือว่ามีการปรับช่วงเวลาที่กระชั้นชิดในบางส่วน 

“จะดำเนินการทุกอย่างให้กองทุนฯ นั้นเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการใช้พลังงาน การประหยัดพลังงาน การสร้างพลังงานโดยการขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ และจะใช้เงินให้คุ้มค่า สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ภายใต้นโยบายที่หารือกันระหว่างตนกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คือ การนำกองทุนฯ ส่วนหนึ่งไปช่วยชุมชนที่ต้องการในการสนับสนุนงบประมาณเพื่อการอนุรักษ์พลังงานมีพลังงานใช้เพื่อทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นและการประกอบอาชีพ ซึ่งการเข้าไปสนับสนุนปีนี้เป็นปีแรก ขอให้มีความมั่นใจว่า คณะกรรมการทุกระดับตั้งแต่สำนักงานกองทุนฯ สนพ. ปลัดและรัฐมนตรี มีความตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้โปร่งใสและเพื่อประชาชน” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว 

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า  ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการที่มีตัวแทนจากหลายฝ่ายมาตรวจสอบในประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสการบริหารเงินกองทุนอนุรักษ์พลังงานควบคู่ไปกับการดำเนินงาน  ซึ่งในส่วนของคณะทำงานกลั่นกรองกองทุนอนุรักษ์ฯ ที่มีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน เร่งทำงานเพื่อให้โครงการต่าง ๆ เดินหน้า และจะสรุปให้คณะอนุกรรมการบริหารสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธานวันที่ 3 กันยายนนี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย ตึกสตง. ถล่ม

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย ตึกสตง. ถล่ม เพราะปฏิบัติหน้าที่ครบ 10 วันแล้ว เป็นปกติของการทำงาน หากปฏิบัติภารกิจต่ออาจจะทำให้บาดเจ็บได้ และการกู้ภัยที่เหลือตอนนี้จำเป็นต้องต้องใช้เครื่องจักรใหญ่เท่านั้น